เอเจนซีส์ - คริสติน ลาการ์ด นายใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แถลงในวันพุธ (27 ส.ค.) ว่า เธอถูกศาลฝรั่งเศสตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ในความผิดฐาน “ละเลยการปฏิบัติหน้าที่” เกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ขณะเธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังแดนน้ำหอม ทั้งนี้ลาการ์ดยังคงยืนกรานความบริสุทธิ์ของตัวเอง และยืนยันไม่มีแผนลาออกจากไอเอ็มเอฟ
การประกาศข่าวช็อกคราวนี้ มีขึ้น 1 วันหลังจากลาการ์ด กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟ ถูกเรียกตัวไปซักถามในฐานะพยานรอบที่ 4 โดยศาลพิเศษในปารีส ที่กำลังไต่สวนคดีการกระทำผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐบาล
“คณะกรรมการสอบสวนของศาลสถิตยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการสอบสวนฉันอย่างเป็นทางการ” ลาการ์ดแถลงเมื่อวันพุธ (27)
ภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส การถูกศาลสั่งสอบสวนอย่างเป็นทางการ เปรียบได้กับการถูกตั้งข้อหาเบื้องต้น ซึ่งในภายหลังผู้พิพากษาอาจยกเลิกการสอบสวน หรือไม่ก็ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีต่อไป
ลาการ์ดเสริมว่า ได้ขอให้ทนายความของเธออุทธรณ์การตัดสินใจนี้แล้ว เนื่องจากไม่มีเหตุผลรองรับโดยสิ้นเชิง และสำทับว่าเธอจะเดินทางกลับไปทำงานที่วอชิงตันในเย็นวันพุธ และยืนยันว่า ไม่มีแผนลาออกจากไอเอ็มเอฟ
ทั้งนี้ คดีนี้เกี่ยวข้องกับบทบาทของลาการ์ดในการจ่ายเงิน 400 ล้านยูโร (ราว 17,000 ล้านบาท) ให้แก่แบร์นาร์ด ตาปี นักธุรกิจใหญ่ชาวฝรั่งเศส เมื่อปี 2008 โดยเกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทระหว่างตาปี กับธนาคารเครดิต ลียองแนส์ สืบเนื่องจากการขายธุรกิจอาดิดาสของตาปีในปี 1993
ในขณะนั้น ตาปีอ้างว่า เครดิต ลียองแนส์โกงตนด้วยการประเมินค่าอาดิดาสต่ำเกินจริง ดังนั้น รัฐบาลซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารแห่งนี้ จึงต้องจ่ายเงินชดเชยให้ตน
ลาการ์ดส่งข้อพิพาทดังกล่าวให้คณะอนุญาโตตุลาการ 3 คนวินิจฉัย ซึ่งต่อมาตัดสินให้ตาปีเป็นฝ่ายชนะ
อย่างไรก็ดี มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตาปีได้รับการปฏิบัติพิเศษเพื่อแลกกับการที่เขาให้การสนับสนุนนิโกลาส์ ซาร์โคซี ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2007
“หลังจากการไต่สวน 3 ปีและการซักถามนับร้อยชั่วโมง ศาลพบว่าฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย มีเพียงข้อกล่าวหาเดียวที่ยังเหลืออยู่คือ ฉันอาจบกพร่องล้มเหลวที่ไม่ได้ขัดขวางการตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการซึ่งวินิจฉัยให้ตาปีเป็นฝ่ายชนะ” ลาการ์ดแถลง
นายใหญ่ไอเอ็มเอฟยืนยันมาตลอดว่า ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย เป็นต้นว่า หลังการซักถามรอบสามเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าเธอ “ปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและภายใต้กฎหมายเสมอมา”
ที่ผ่านมาลาการ์ดพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกศาลถูกตั้งข้อกล่าวหาเธออย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจส่งผลเป็นการบีบให้เธอต้องลาออกจากไอเอ็มเอฟ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในฐานะเป็นพยานพิเศษ ที่ทำให้เธอต้องเดินทางกลับสู่ปารีสเพื่อตอบข้อซักถามเมื่อศาลออกหมายเรียก
คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหา 5 คน ซึ่งรวมถึงสเตฟาน ริชาร์ด ประธานคณะเจ้าหน้าที่ของลาการ์ดในขณะนั้น และปัจจุบันเป็นนายใหญ่ของ “ออเรนจ์” บริษัทสื่อสารรายยักษ์