ยูเครนกล่าวหากบฏยิงถล่มขบวนรถพลเมืองหนีภัยสงคราม ตายจำนวนมาก

เอเอฟพี - ยูเครนเมื่อวันจันทร์ (18 ส.ค.) กล่าวหากบฏฝักใฝ่รัสเซีย ยิงจรวดเข้าใส่ขบวนรถของพลเรือนที่กำลังหลบหนีภัยสงครามทางภาคตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่การเจรจาฉุกเฉินที่หมายยุติเหตุนองเลือดที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนล้มเหลวในการผ่าทางตันใดๆ

กองทัพยูเครนอ้างว่า “มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ในนั้นมีทั้งเด็กและสตรี” หลังพวกกบฏใช้เครื่องยิงจรวดและปืนครกที่ได้รับมาจากรัสเซีย ยิงเข้าใส่ขบวนรถที่ติดธงสีขาวของพลเรือนที่กำลังหลบหนีการสู้รบอันดุเดือดโดยรอบเมืองลูกานส์ก ที่ยึดครองโดยพวกแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก

คำกล่าวหานี้มีขึ้นหลังจากการประชุมที่กินเวลากว่า 5 ชั่วโมง ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี จบลงโดยปราศจากข้อตกลงใดๆในการยุติวิกฤตความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือน คร่าชีวิตชาวบ้านกว่า 2,100 ศพและฉุดให้ภูมิภารแถบนี้ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม

มอสโกเรียกร้องให้กองกำลังรัฐบาลยูเครนระงับการรุกรานป้อมปราการหลักของพวกแบ่งแยกดินแดน ขณะที่เคียฟกล่าวหารัสเซียจัดมอบอาวุธแก่ฝ่ายกบฏ “เป็นอีกครั้งที่เรามิอาจแจ้งข่าวผลลัพธ์ในทางบวก สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือการกำหนดข้อตกลงหยุดยิงและเริ่มกระบวนการทางการเมือง” นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนรีต่างประเทศแดนหมีขาวกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายลาฟรอฟบอกว่า เหล่ารัฐมนตรีจะพบกันอีกครั้งและหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงบางอย่างโดยเร็ว ขณะนายพาฟโลก คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนบอกว่ามันเป็นช่วงเวลา 5 ชั่วโมงแห่งการหารือที่ยากลำบากที่สุดและบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการนัดหารือเพิ่มเติมเพื่อก้าวไปข้างหน้า

ศูนย์กลางการปะทะอันดุเดือดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่รอบๆเมืองลูกานส์ก ฐานที่มั่นใหญ่สุดอันดับ 2 ของฝ่ายกบฏ ขณะที่เคียฟบอกว่าทหารของเขาลุยเปิดทางเข้าสู่แถบชานเมืองรอบนอกได้แล้ว อย่างไรก็ตามโฆษกของกองทัพยอมรับในวันจันทร์ (18) ว่าช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีทหาร 9 นายเสียชีวิตในเหตุปะทะกับฝ่ายกบฏ นอกจากนี้แล้วพวกแบ่งแยกดินแดนยังยิงเครื่องบินรบตกอีก 1 ลำด้วย

เหตุปะทุรอบๆ ลูกานส์ก ส่งผลให้เมืองแห่งนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตทางมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ด้วยน้ำประปาและไฟฟ้าถูกตัดขาดมานานกว่า 2 สัปดาห์ ขณะที่กองทัพยูเครนใกล้ยึดคืนเมืองมาได้แล้ว

ส่วนที่โดเนตส์ก ป้อมปราการใหญ่สุดอันดับ 2 ของยูเครน พบเห็นชาวบ้านต่อแถวเข้าซื้อน้ำดื่มจากร้านค้าขนาดเล็ก หลังจากการสู้รบทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องปิดการจ่ายน้ำประปา โดยก่อนหน้านี้ในค่ำวันอาทิตย์ (17) ศาลากลางจังหวัดแนะนำประชาชนให้กักตุนน้ำไว้ใช้ยามจำเป็น

การสู้รบรอบๆ เมืองยังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่รางรถไฟที่เชื่อมโดเนตสก์กับดินแดนอื่นๆ ของประเทศ ส่งผลให้ชาวบ้านที่ยังคงอยู่ในเมืองแห่งนี้มีทางเลือกอพยพไม่มากนัก ขณะที่สหประชาติคาดหมายว่าจนถึงตอนนี้มีประชาชนได้หลบหนีภัยสงครามทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้วกว่า 285,000 คน

ยูเครนกล่าวหามอสโกสนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดน ด้วยการจัดส่งอาวุธและนักรบข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม เป็นอีกครั้งที่นายลาฟรอฟปฏิเสธ และบอกว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาหารืออย่างเฉพาะเจาะจงในการประชุมที่เบอร์ลิน

ขณะเดียวกัน คาราวานสิ่งของบรรเทาทุกข์ของมอสโก ยังคงจอดรอเพื่อดำเนินการตรวจสอบใกล้ชายแดนยูเครน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงเจรจากันเกี่ยวกับการอนุญาตให้ขบวนรถเข้าไปยังดินแดนที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่ “เรากำลังรอคำรับประกันความปลอดภัยแก่คาราวาน” โฆษกของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ องค์การที่ดูแลการขนส่งอันเป็นที่ถกเถียงนี้

ยูเครนและตะวันตก กังวลว่าคาราวานขบวนนี้อาจเป็นอุบายของรัสเซียที่จะลอบเสริมแสนยานุภาพแก่ฝ่ายกบฏซึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำ อย่างไรก็ตามมอสโกยืนยันว่ามันเป็นสิ่งของช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับดินแดนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน