เอเจนซี – แฮรี พอตเตอร์ ไม่ได้ขจัดปัญหาการเหยียดเชื้อชาติได้เป็นแน่แท้ แต่การศึกษาล่าสุดชี้ว่า ผู้ที่อ่านหนังสือแฮรี พอตเตอร์ และเข้าอกเข้าใจตัวละครหลักนั้น มีแนวโน้มที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อพยพเข้าเมือง กลุ่มรักร่วมเพศและผู้ลี้ภัย หรือพูดง่ายๆ คือ วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้สอนให้รู้จักการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นหรือความใจกว้างนั่นเอง
การศึกษาว่าด้วยอิทธิพลที่นิยาย แฮรี พอตเตอร์ มีต่อแนวคิดเสรีนิยม ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Applied Social Psychology แท้จริงแล้วเป็นการศึกษา 3 หัวข้อใน 1 ชิ้น โดยหัวข้อแรกคือการศึกษาว่าเด็กนักเรียนชั้นเกรด 5 ชาวอิตาลีตอบสนองอย่างไรต่อชุดนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ , หัวข้อที่สองคือการพิจารณาถึงการตอบสนองของนักเรียนมัธยมปลายชาวอิตาลี และหัวข้อสุดท้ายคือสำรวจว่านักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในอังกฤษตีความชุดนิยายขายดีเรื่องนี้อย่างไร
การศึกษาหัวข้อแรกพบว่า เด็กนักเรียนชั้นเกรด 5 ในแดนมะกะโรนี ที่อ่านเรื่องราวใน แฮรี พอตเตอร์ ส่วนที่แสดงถึงอคติของตัวละคร เริ่มมี “ทัศนคติที่ดีขึ้นต่อกลุ่มคนเข้าเมือง” ขณะที่การศึกษาหัวข้อที่ 2 ได้พบความสัมพันธ์กันระหว่างนักเรียนมัธยมปลายที่เชื่อมความรู้สึกกับตัว แฮรี และผู้ที่มีมุมมองที่ยอมรับการรักร่วมเพศมากขึ้น
การศึกษาหัวข้อที่ 3 ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างผู้ที่คลั่งไคล้ แฮรี และความใจกว้าง แต่ก็ได้พบผลกระทบในวงกว้างที่คล้ายคลึงกัน เมื่อให้ผู้อ่านตีความนิยายเรื่องนี้ผ่านมุมมองอีกด้านหนึ่ง อย่างของ โวลเดอร์มอร์ เป็นต้น
คณะผู้ศึกษาได้เขียนเกี่ยวกับการศึกษาของอังกฤษชิ้นนี้ในรายงานสรุปว่า “เห็นได้ชัดว่าการอ่านหนังสือ แฮรี พอตเตอร์ มีส่วนทำให้เกิดการปรับมุมมองต่อผู้ลี้ภัย เฉพาะในหมู่ผู้ที่เห็นอกเห็นใจ โวลเดอร์มอร์ น้อยกว่าเท่านั้น” และกล่าวต่อว่า “การปรับมุมมองอย่างเป็นลำดับมีส่วนทำให้ทัศนคติต่อผู้ลี้ภัยเป็นเชิงบวกมากขึ้น”
การวิจัยชิ้นนี้ต่อยอดมาจากการศึกษาก่อนหน้า ที่บ่งชี้ว่าวรรณกรรมประเภทนิยายสามารถลดทอนความมีทิฐิมานะลงได้
นอกจากนี้ การวิจัยชิ้นนี้ยังได้ทำให้ความตั้งใจของผู้ประพันธ์ที่ได้ประกาศไว้เองกลายเป็นจริง
เจ.เค. โรลลิง ผู้ประพันธ์ชุดนิยาย แฮรี พอตเตอร์ กล่าวว่า “ชุดหนังสือ แฮรี พอตเตอร์ โดยทั่วไปเป็นการโต้แย้งที่ยืดเยื้อยาวนานเพื่อให้เกิดการยอมรับผู้อื่น และยุติความมีทิฐิมานะ .......และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บางคนไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่านั่นมันเป็นสารที่เป็นประโยชน์มาก ที่จะใช้ถ่ายทอดไปยังชนรุ่นหลัง ว่าคุณควรตั้งคำถามถึงอำนาจหน้าที่ และคุณไม่ควรนึกเอาเองว่ารัฐบาลหรือสื่อบอกความจริงทุกอย่างแก่คุณ”