เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ของปากีสถานเปิดเผยในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่าเกิดเหตุคนเล่นน้ำ 19 รายจมน้ำเสียชีวิต และยังมีที่หายสาปสูญไปอีก 4 ราย ในทะเลชายฝั่งของเมืองการาจี หลังจากที่คนเหล่านั้นฝ่าฝืนคำสั่งห้ามไม่ให้ลงเล่นน้ำในช่วงฤดูมรสุม
ผู้ที่เสียชีวิตเหล่านั้นไปเที่ยวชายหาดที่มีผู้คนหลายพันกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดหลังการถือศีลอด ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคาร (29 ก.ค.) ไปจนถึงวันศุกร์ (1 ส.ค.)
แม้จะมีบรรดาญาติมารวมตัวกันที่ชายหาดเพื่อรอฟังข่าวคราวเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังมีอีกหลายร้อยครอบครัวที่มายังชายหาดแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมปล่อยให้พวกเขาลงเล่นน้ำ ทั้งที่เพิ่งจะมีคนตายไป
อิบาดัต นีซาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส ระบุว่า ตำรวจพบ 3 ศพลอยขึ้นมาบริเวณชายหาดคลิฟตันเมื่อเย็นวันพุธ (30 ก.ค.) ทำให้ต้องปฏิบัติการออกค้นหาในพื้นที่กว้างขึ้น โดยได้หยุดค้นหาช่วงกลางคืน ก่อนกลับมาดำเนินการต่อในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.)
เขาบอกว่า พอได้พูดคุยกับกลุ่มคนที่มาปิกนิกกันบนชายหาด ทำให้ได้รู้ว่าตัวเลขของผู้ที่จมน้ำนั้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยกลุ่มคนที่เจ้าหน้าที่ได้คุยด้วยนั้น ได้บอกว่าเพื่อนหรือญาติของพวกเขาหายไปในระหว่างที่ว่ายน้ำ
โชอีบ อาเหม็ด ซิดดิกุย เจ้าหน้าที่ปกครองระดับสูงของเมืองการาจี ยืนยันกับเอเอฟพีว่า มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง โดยมีศพผู้ที่จมน้ำ 19 รายถูกนำขึ้นมาจากทะเล ขณะเดียวกันการค้นหาผู้ที่หายสาปสูญไปอีก 4 รายนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป
ที่บริเวณชายหาดคลิฟตัน มีรถพยาบาลหลายคันได้มาจอดอยู่ ขณะที่บรรดาญาติของผู้ที่หายไปต่างก็พากันมารวมตัวกัน เฝ้ารอข่าวคราวอย่างใจจดใจจ่อ
ฟาอีส เรห์มัน ชายวัย 32 ปี บอกว่า เขากับน้องชายได้มาที่ชายหาดเมื่อวันพุธ เพื่อว่ายน้ำกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งตอนนี้เพื่อนทั้งสองคนได้กลายเป็นผู้หายสาปสูญไปแล้ว
"ตอนที่เรากำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเล ผมสังเกตเห็นว่าคลื่นเริ่มที่จะใหญ่และซัดแรงมากขึ้น ผมรู้สึกกลัวก็เลยจะว่ายน้ำกลับ แล้วก็เรียกน้องชายกับเพื่อนให้ว่ายน้ำเข้าฝั่งด้วยกัน น้องผมกลับมาแต่เพื่อนทั้งสองคนยังว่ายน้ำอยู่ในทะเล แล้วคลื่นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นผมก็ไม่เห็นพวกเขา ผมรออยู่ 3 ชั่วโมงแต่พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย" เรห์มัน กล่าว
ซิดดิกุย ระบุอีกว่า ปฏิบัติการค้นหานั้นได้รับความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์และนักประดาน้ำของกองทัพเรือ รวมถึงเจ้าหน้าที่พลเรือน
แม้จะมีการตายเกิดขึ้น แต่หลายร้อยครอบครัวซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก ต่างก็พากันมายังชายหาดคลิฟตันแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) โดยมีการทะเลาะกันเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะครอบครัวเหล่านั้นต้องการที่จะลงเล่นน้ำ
"เรายังค้นหาศพของผู้ที่เสียชีวิตกันอยู่ แถมคนเหล่านี้ก็ได้เห็นศพของคนที่เพิ่งจมน้ำตายด้วยตาตัวเอง แต่พวกเขาก็ยังจะทะเลาะกับเรา เพราะอยากให้เรายอมปล่อยให้พวกเขาลงเล่นน้ำในทะเล" ฟาฮัด อาลี เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายหาดบ่นกับเอเอฟพี
"คนพวกนี้มาพร้อมกับครอบครัวที่มีทั้งผู้หญิงและเด็ก ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เลยว่าเด็กนั้นยังเล็กมาก น่าจะประมาณ 6 ขวบเท่านั้น แต่พวกพ่อแม่ก็ยังจะชวนทะเลาะเพราะอยากจะให้ปล่อยเด็กเหล่านี้ลงเล่นน้ำ นี่มันเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากจริงๆ" เขากล่าว
นิซาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส บอกกับเอเอฟพีว่า รัฐบาลได้สั่งห้ามไม่ให้มีการว่ายน้ำในทะเลตั้งแต่ก่อนเริ่มฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายนแล้วด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ การาจี เป็นเมืองที่มีประชากร 20 ล้านคน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของปากีสถาน รวมถึงได้รับความเสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองและความรุนแรงระหว่างคนต่างเชื้อชาติอยู่เสมอ
