นิวยอร์กไทมส์เผยมือระเบิดฆ่าตัวตายชาวอเมริกันกลับมาสหรัฐฯ ก่อนก่อเหตุในซีเรีย

เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เผยเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายชาวอเมริกันที่ก่อเหตุบริเวณจุดตรวจของกองทัพซีเรีย ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายเดือน หลังผ่านการฝึกฝนก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ

รายงานดังกล่าวเน้นให้เห็นถึงความกังวลของชาติมหาอำนาจตะวันตกที่ห่วงว่าซีเรียกำลังกลายเป็นสถานที่ฝึกฝนให้กับบรรดาพลเมือง ซึ่งจากนั้นก็จะกลับบ้านในฐานะนักรบผู้เคยผ่านศึกสมรภูมิ และพร้อมจะโจมตีประเทศบ้านเกิดและชาติอื่นๆ

“โมเนอร์ โมฮัมหมัด อาบู ซัลฮา” ผู้มีนามแฝงว่า “อาบู ฮูเรย์รา อัล-อัมริกี” คือผู้ที่หลายฝ่ายเชื่อกันว่า เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ก่อเหตุโจมตีในสงครามที่กินเวลามากว่า 3 ปีของประเทศซีเรีย

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา นักรบญิฮัดชาวอเมริกันผู้นี้ ได้ขับรถบรรทุกที่เป็นคาร์บอมบ์เข้าโจมตีฐานของกองทัพซีเรีย ในพื้นที่ จาบัล อัล-อาเบอีน ของจังหวัดอิดลิบที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์อ้างว่าได้รับข้อมูลจากการสืบสวนของสหรัฐฯ ที่ยังไม่เคยเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับรู้มาก่อน โดยระบุว่า อาบู ซัลฮา ได้ฝึกฝนกับพวกกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรีย จากนั้นก็กลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวเป็นเวลาหลายเดือน แล้วก็เดินทางออกจากประเทศเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อไปก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย

โฆษกของเอฟบีไอปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการสืบสวนเหตุการณ์นี้โดยตรง เขาบอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวแค่เพียงว่าเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของความท้าทายที่เอฟบีไอต้องเจอ ตอนนี้เอฟบีไอกำลังค้นหาว่ามีพลเรือนของสหรัฐฯ รายใดที่จะเดินทางไปซีเรียเพื่อพบปะกับพวกญิฮัดบ้าง

เจ้าหน้าที่ได้บอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ปักใจเชื่อว่าความตั้งใจที่จะก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายของอาบู ซัลฮา เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ไปซีเรียครั้งล่าสุด นั่นทำให้เขาเลือกเดินบนเส้นทางนั้นและก็ตัดสินใจที่จะก่อเหตุโจมตี ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่รู้ กับตอนที่เขาลงมือก่อเหตุ เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

ก่อนหน้านี้ เอฟบีไอและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ พบสัญญาณบ่งชี้บางอย่าง ในตอนที่ อาบู ซัลฮา เดินทางไปซีเรียครั้งแรก แต่เนื่องจากไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกฝนเพื่อเป็นกองกำลังติดอาวุธและความตั้งใจที่จะกลายเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายของเขา ทำให้ทางการไม่มีเหตุผลที่จะห้ามการเดินทางไปซีเรียหรือควบคุมตัวเขาไว้

มีการประเมินว่า บรรดานักรบที่เป็นชาวต่างชาติได้เข้าไปในซีเรียเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาน่าจะมีตัวเลขอยู่ที่ระหว่าง 9,000-11,000 คน