เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ เมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ออกมาสยบข่าวลือว่ากำลังถูกวางแผนก่อรัฐประหารโค่นอำนาจ หลังชาวบ้านพบเห็นทหารเคลื่อนพลสู่เมืองหลวง ด้วยโฆษกยืนยันยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอย่างเต็มที่ท่ามกลางข้อขัดแย้งระหว่างผู้นำรายนี้กับศาลเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
สมาขิกวุฒิสภารายหนึ่งซึ่งเป็นพันธมิตรของนายอากีโน กล่าวอ้างเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า เหล่านายทหารปลดเกษียณกำลังพยายามเกณฑ์สมาชิกเพื่อก่อความไร้เสถียรภาพแก่รัฐบาล อย่างไรก็ตาม นายเอ็ดวิน ลาเซียร์ดา โฆษกของนายอากีโนปฏิเสธข่าวลือนี้ “ไม่มีรายงานข่าวการลุกฮือต่อต้านในหมู่ทหารประจำการ”
ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในชาติประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวาที่สุดของเอเชีย แต่กองทัพก็มีประวัติศาสตร์มาช้านานในการเข้าแทรกแซงกระบวนการทางการเมือง ทั้งนี้ทหารให้การสนับสนุนจอมเผด็จการ เฟอร์ดินาน มาร์กอส จนกระทั่งเกิดการปฏิบัติประชาชนโค่นอำนาจของเขาในปี 1986 และแต่งตั้งนางคอราซอน อากีโน มารดาผู้ล่วงลับของนายเบนิโญ อากีโน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ประธานธิบดีคอราซอน อากีโน รอดพ้นจากความพยายามรัฐประหารนองเลือดหลายต่อหลายครั้งตลอดช่วง 5 ปีถัดจากนั้น ในนั้นรวมถึงการลุกฮือของทหารกบฏที่สังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 นายที่คอยอารักขาลูกชายของเธอ ที่ต่อมาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ระหว่างปราศรัยต่อรัฐสภาในค่ำคืนวันจันทร์ (28) เขารำพึงออกมาว่ามีใครบางคนอาจพยายามฆ่าเขาอีกครั้งเพื่อสกัดกั้นแผนปฏิรูปต่างๆ ของเขา “อาจมีวันหนึ่งที่ผมอยู่บนเวที ออกไปทำงาน บางคนอาจแอบซุกระเบิดเอาไว้ อาจมีแผนร้ายจากใครบางคนที่ต้องการดึงเราที่กำลังทำหลายสิ่งหลายอย่างจนใกล้ประสบความสำเร็จ กลับสู่ทิศทางผิดๆ อีก” เขากล่าว
สำนักโพลอิสระต่างๆ ระบุว่า นายอากีโน หนึ่งในประธานาธิบดีซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ มีคะแนนความชื่นชอบดำดิ่งลงในเดือนนี้ ท่ามกลางข้อขัดแย้งระหว่างผู้นำรายนี้กับศาลฎีกาต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายพันล้านดอลลาร์ของเขาในช่วงปี 2011-2013
ศาลมีคำพิพากษาในเดือนนี้ว่าโครงการดังกล่าวผิดกฎหมาย เพราะว่าประธานาธิบดีเพิกเฉยไม่ยอมขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เวลานี้อากีโนอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทนี้ได้กระตุ้นความกังวลถึงความเป็นไปได้ของวิกฤตรัฐธรรมนูญ
ข่าวลือเกี่ยวกับรัฐประหารหนาหูขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากชาวบานพบเห็นทหารในรถบรรทุกและยานยนต์หุ้มเกราะถูกลำเลียงจากจังหวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงเข้าสู่กรุงมะนิลา
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของกองทัพชี้แจงในวันพุธ (30) ว่าเป็นการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลตามปกติ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลเอฟเกรอริโอ คาตาปัง ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์เตือนว่าทหารไม่ควรเข้าไปแทรกแซงประเด็นทางการเมือง