วอลล์สตรีทเจอร์นัล - แม้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยยังไม่ฟื้นตัวจากความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ยืดเยื้อนานหลายเดือน แต่ประธานโตโยต้า ประเทศไทยให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังของสหรัฐฯ ชี้ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคมก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และยืนยันบริษัทของเขาจะยังคงลงทุนในชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ต่อไป
เมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.) โตโยต้า มอเตอร์ ประจำประเทศไทย คาดหมายว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2014 จะลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่าจุดเปลี่ยนได้มาพร้อมกับรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ
โตโยโต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งยึดครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ภายในชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ถึง 35.9 เปอร์เซ็นต์ ประมาณการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในไทยปี 2014 จะอยู่ที่ 920,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 30.9 เปอร์เซ็นต์ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก มียอดขายลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 40.5 เปอร์เซ็นต์
ในการแถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2014 นายทาดานะ ยืนยันด้วยว่าโตโยต้าจะยังเดินหน้าลงทุนในไทยต่อไป หลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาเคยแย้มโดยไม่ให้รายละเอียดใดๆ ว่า บางทีโตโยต้า อาจจำเป็นต้องทบทวนแผนลงทุนมูลค่า 20,000 ล้านบาท เพื่อขยายขีดความสามารถในไทย
“เพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด เราจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติม โดยไม่ใช่แค่รองรับตลาดปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงตลาดในอนาคตด้วย” นายทานาดะกล่าว พร้อมบอกว่า “ทางบริษัทยังคงมองไทยในฐานะหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญที่สุด รวมถึงยังเป็นที่ตั้งต่างๆ ศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาคของโตโยต้าด้วย”
วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานต่อว่า คณะผู้ปกครองทหารของไทยประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล และพวกเขาออกมาตรการต่างๆ นานาเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ
นายทานาดะ ระบุเขาไม่ได้มองว่าการยึดอำนาจของทหารคือแนวทางคืนเสถียรภาพทางการเมือง แต่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ควรได้รับความดีความชอบบางส่วนสำหรับความสงบที่กลับคืนมาและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่กำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาลชุดก่อน เช่นเดียวกับความยุ่งเหยิงทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจเสื่อมถอย ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทแห่งนี้แสดงความกังวลต่อนโยบายบางอย่างของคณะรัฐประหาร โดยเฉพาะการประกาศกฎอัยการศึกซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของจีดีพีไทย “ถ้ารัฐบาลทหารจะพิจารณายกเลิกอัยการศึก มันจะเป็นผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์” นินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการโตโยต้า ประเทศไทยกล่าว
