xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบมุสลิมเดือด!! บุกเผาบ้านลัทธินอกรีต หญิงปากีฯพร้อมเด็ก 2 คนดับอนาจคากองไฟ หลังข่าวโพสต์เฟสฯหมิ่นศาสนาว่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - หญิงชาวปากีสถาน พร้อมเด็ก 2 คนเสียชีวิตในเหตุจลาจลทางศาสนาก่อตัวขึ้นเนื่องจากความไม่พอใจในการโพสต์ภาพหลบหลู่ศาสนาอิสลามบนเฟสบุ๊ก ที่ม็อบมุสลิมโกรธแค้นหนึ่งในสมาชิกลัทธิอามาดี (Ahmadi ) ซึ่งเป็นลัทธินอกรีตในปากีสถาน กล่าวหาว่าโพสต์ภาพลบหลู่บนเฟสบุ๊ก

ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(28)ว่า บ้านของหญิงปากีสถานที่เสียชีวิตพร้อมเด็กที่เป็นหลานของตนเองถูกจุดไฟเผาในเมืองGujranwala  โดยม็อบที่กราดเกรี้ยวในวันอาทิตย์(27) ในขณะที่หญิงชาวปากีสถานอีกคนที่กำลังตั้งครรภ์ต้องแท้งบุตรเนื่องมาจากความรุนแรง

ทางตำรวจปากีสถานรายงานว่า ในที่เกิดเหตุพบศพ หญิงชาวปากีสถาน พร้อมทั้งหลานสาววัย 7ปี และพี่เลี้ยงเด็กเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศหายใจ และพบว่าเหยื่อเป็นสมาชิกลัทธิอามาดี (Ahmadi ) ซึ่งเป็นลัทธิที่ประกาศตนเป็นหนึ่งในศาสนาอิสลาม แต่ในปากีสถานจัตเป็นพวกนอกศาสนาและต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษ

เหตุจลาจลเกิดขึ้นเนื่องจากซาคิบ(Saqib) หนุ่มน้อยนับถือลัทธิอามาดีได้แชร์ภาพหมิ่นทางศาสานาผ่านเฟสบุ๊ก ปากีสถานทูเดย์รายงาน ซึ่งในรูปนั้นมีกาบา ( Kaaba)  แท่งหินดำศักดิสิทธิ์ในนครเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย และมีภาพลามกรวมอยู่ในนั้น

จากรายงานพบว่า ฝูงชนรวมตัวนอกบ้านซาคิบ และส่งเสียงโห่ร้องขับไล่ และเมื่อฝูงผู้ประท้วงเดินย้ายไปถึงบ้านแพทย์นายหนึ่งที่คนคาดกันว่า ซาคิบอาจจะมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ มีคนจากข้างในบ้านยิงมาที่ม็อบ และทำร้ายชายผู้เริ่มต้นข่าวลือเฟสบุ๊ก

และหลังจากนั้นฝูงชนที่บ้าคลั่งได้จุดไฟเผาบ้านสมาชิกลัทธิอามาดี จำนวน 5 หลัง สังหารหญิง และเด็ก รวมไปถึงทำให้มีผู้คนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

สถานีข่าวท้องถิ่นปากีสถานเผยแพร่รูปฝูงชนที่ถือท่อนไม้ ร้องตะโกนอยู่นอกบ้านที่กำลังลุกไหม้ และในอีกแหล่งข่าวเปิดเผยว่า หญิงเคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตอยายุราว 30ปี และเด็กหญิงที่จบชีวิตในกองเพลิงอายุ 8ปี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานให้สัมภาษณ์ว่า มีชาวบ้านอีก 150คนรวมตัวเดินทางไปที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งเรียกร้องให้ดำเนินคดีเอาผิดหลบหลู่ศาสนาอิสลาม อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มต้นเรื่องที่มีข่าวโพสต์รูปลบหลู่ปลอดภัยดี เจ้าหน้าทีตำรวจท้องถิ่นเสริม

คดีลบหลู่ศาสนาอิสลามในปากีสถานมีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต ที่ถึงแม้กฎหมายนี้จะคุ้มครองทุกศาสนาในปากีสถานก็ตาม

สื่ออังกฤษยังรายงานต่อว่า ลัทธิอามาดีถือว่าอยู่ในศาสนาอิสลามแต่นับถือ กูลาม อาเหม็ด ( Ghulam Ahmad) ที่เกิดในปี 1835 เป็นศาสดาซึ่งตั้งตนเป็นผู้เผยแผ่หลังจากสิ้นศาสดามูฮัมมัดไปแล้ว ทั้งนี้ กูลาม อาเหม็ด ไม่ได้เป็นศาสดาผู้ตั้งบัญญัติศาสนา แต่เป็นศาสดาผู้ที่ทำให้โลกรู้จักบัญญัติของศาสดาโมฮัมหมัด นอกจากนี้ในปากีสถาน ลัทธิอามาดีไม่ถือว่าอยู่ใต้ร่มเงาศาสนาอิสลาม ในปี1984 กฎหมายปากีสถานระบุว่า มีความผิดหากคนในลัทธิอามาดีจะแอบอ้างเป็นชาวมุสลิม หรือทำประหนึ่งว่าเป็นมุสลิม

พวกอามาดิสถูกห้ามที่จะเอ่ยคำทักทายแบบมุสลิม กล่าวถึงผู้สวดอ้อนวอน หรือใช้คำว่า มัสยิดเมื่อโยงไปถึงสถานที่ประกอบกิจทางศาสนา

ด้านซาลิม อัด ดิน โฆษกชุมชนอามาดี ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ล่าสุดนี้เลวร้ายมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโจมตีต่อเนื่องมา 4ปีที่แล้วในลาฮอร์ คร่าชาวอามาดิสไป 86 ราย “ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่ห้ามปรามอะไร ในชั้นแรกพวกคนเหล่านั้นเข้าปล้นบ้านเป้าหมาย รวมไปถึงร้านค้า และหลังจากนั้นวางเพลิงเผาบ้าน” ซาลิม อัด ดิน กล่าว

ในเดือนพฤษภาคมล่าสุด มีผู้นับถือลัทธิอามาดี 2 รายต้องจบชีวิต รวมถึงนายแพทย์ด้านโรคหัวใจชาวอเมริกันเชื้อสายปากีสถาน ถูกยิงเสียชีวิต และในเดือนเดียวกันนี้ นักกฎหมายและนักสิทธิมนุษยชนที่เป็นตัวแทนศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยในคดีใต่สวนหลบหลู่ศาสนาถูกยิงเสียชีวิตเช่นเดียวกันในเมืองมูลตาน (Multan) ปากีสถาน

ในปี 2014 มีผู้ถูกกล่าวหาทำความผิดในคดีหลบหลู่ศาสนาร่วม 100 คน

กำลังโหลดความคิดเห็น