เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(21)โรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในรัฐแมริแลนด์ตกลงยอมจ่ายค่าปรับ 190 ล้านดอลลาร์ หลังจากคนไข้สตรีราว 8,000 คน ร่วมฟ้องเอาผิดนายแพทย์ นิกิตา เลวี ( Dr Nikita Levy )นรีแพทย์ของโรงพยาบาลที่ลอบใช้กล้องปากกาเก็บภาพอวัยวะเพศของคนไข้ และพวงกุญแจอิเลกทรอนิกในการบันทึก และพบว่าเลวีได้ปลิดชีวิตตนเองในปีที่ผ่านมาหลังจากถูกไล่ออกจากงานได้ 10 วัน
โจนาธาน โชขอร์ (Jonathan Schochor) ทนายความโจทย์คนไข้สตรีจำนวน 8,000 คนให้สัมภาษณ์หลังคดีสิ้นสุดว่า เหล่าคนไข้หญิงทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน สิ่งที่พวกตนประสบล้วนเป็นสิ่งที่ป่าเถือนมาก และถือเป็นการทรยศต่อความไว้ใจในฐานะแพทย์เจ้าของไข้
นอกจากนี้เหล่าคนไข้หญิงต่างร้องเรียนว่า พวกเธอถูกเลวีสั่งให้ตรวจภายในเป็นจำนวนมากจนผิดสั่งเกต และมีการสัมผัสร่างกายคนไข้อย่างไม่เหมาะสม
สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(21) พบว่าการตกลงยอมความครั้งนี้ถือว่ามีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯที่มีมูล่าถึง 190 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้เอพียังรายงานเพิ่มเติมว่า คนไข้หญิงจำนวน 8,000 คนได้ยื่นฟ้องนายแพทย์นิกิตา เลวี ( Dr Nikita Levy )นรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในการแอบถ่ายภาพและวิดีโอคลิปอวัยเพศของพวกเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบหลักฐานวิดีโอคลิปจำนวนถึง 1,200 ชิ้น และรูปถ่ายอีก 140 รูป เก็บในคอมพิวเตอร์ของเลวีในช่วงการสอบสวน
จากประวัติพบว่า เลวีทำงานให้กับโรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอปกินส์ เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ มานานกว่า 25 ปี เขาได้ปลิดชีวิตตนเองลงในอีก 10 วันถัดมาหลังจากถูกไล่ออกจากงานในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2013 ที่เลวีถูกเพื่อนร่วมงานจับได้ว่า แอบใช้กล้องปากกาที่สวมอยู่ที่คอเพื่อถ่ายวิดีโอคลิป และรูปภาพของสงวนคนไข้
นอกจากนี้ ในการฟ้องร้องยังมีการโยงถึงต้นสังกัดของเลวีว่า โรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอปกินส์สมควรที่จะสืบรู้เรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่โดนัลด์ ดีอูวีริซ(Donald DeVries) ทนายความของโรงพยาบาลปฎิเสธในเรื่องนี้ โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง “เพียงเพราะจำเลยทำงานให้กับโรงพยาบาล แต่ไม่ได้หมายความว่าทางหน่วยงานต้นสังกัดต้องรับผิดชอบในการกระทำของเขา” USAToDay สื่อสหรัฐฯรายงาน โดยดีอูวีริซยืนยันว่าทางโรงพยาบาลไม่ทราบถึงพฤติกรรมของเลวีมาก่อนหน้านี้
และถึงแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่า เลวีสมคบคิดร่วมกับคนอื่นในการกระทำผิด หรือเขาได้แชร์ภาพหรือคลิปเหล่านี้กับคนอื่น และในการสอบสวนไม่พบว่าเลวีบันทึกรูปภาพคนไข้ที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่กระนั้นแรงจูงใจของเลวีในการกระทำผิดก่อนที่จะฆ่าตัวตายหลังจากนั้นยังคงเป็นปริศนา
ทางโรงพยาบาลจอห์นส์ ฮอปกินส์ได้ออกแถลงการณ์มีใจความว่า “ทางโรงพยาบาลหวังว่าการตกลงยอมความทางคดีในครั้งนี้ รวมไปถึงความจริงที่ได้จากการสอบสวนที่พบว่า “ไม่มีการเผยแพร่รูปต่อ” จะช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ”