เอเอฟพี - ตำรวจไทยเปิดเผยวันนี้ (16 ก.ค.) ว่าอดีตมกุฎราชกุมาร ปาราส ชาห์ แห่งเนปาล ทรงถูกจับกุมในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเป็นครั้งที่ 2 ทำให้พระองค์อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
ตำรวจจากสถานีตำรวจทองหล่อ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนามระบุว่า เจ้าชายชาห์ ทรงถูกควบคุมตัว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบกัญชาหนักราว 13 กรัม ในห้องพักของพระองค์ ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ผู้นี้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า “พระองค์ทรงขอยืมแฟลชไดรฟ์จากหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงแรม และเมื่อรปภ. เข้าไปในห้องพักของพระองค์ เพื่อนำแฟลชไดรฟ์คืน ก็เห็นกัญชาบนเคาน์เตอร์ จึงแจ้งตำรวจ”
เขากล่าวว่า เจ้าชายชาห์ ซึ่งเสด็จประพาสไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวทรงยอมรับว่า ครอบครองยาเสพติดจริง และอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัว
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีตเชื้อพระวงศ์เนปาลผู้นี้ทรงละเมิดกฎหมายประเทศไทย
อดีตมกุฎราชกุมารผู้ไม่ได้รับความนิยมชมชอบจากชาวเนปาล เนื่องจากทรงใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญพระองค์นี้ ทรงถูกจับกุมเป็นครั้งแรกที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2012 ฐานครอบครองกัญชาน้ำหนักราว 3 กรัม
ในปีเดียวกัน พระองค์ทรงถูกจับกุมอีกครั้ง ในความผิดฐานทำลายทรัพย์สินของอพาร์ตเมนต์หรู ในกรุงเทพมหานคร
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 เจ้าชายชาห์ ทรงเข้ารับการรักษาในห้องไอ.ซี.ยู. ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไทย ภายหลังทรงมีพระอาการพระหทัยวาย
เมื่อปี 2001 พระองค์ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทครองบัลลังก์เนปาลใน ปี 2001 หลังจากพระเชษฐา อดีตมกุฎราชกุมารทิเพนทรา เกิดเมายาคลุ้มคลั่งสังหารหมู่สมาชิกในราชวงศ์ถึง 9 พระองค์ ซึ่งรวมถึงพระราชชนก และพระราชชนนีของพระองค์เอง ก่อนทรงพยายามกระทำอัตวินิบาตกรรม
เนปาลได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง และล้มล้างราชวงศ์ เมื่อปี 2008
สถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำกรุงเทพฯ ระบุว่า รับทราบข่าวการจับกุมเจ้าชายชาห์เมื่อล่าสุดนี้แล้ว