เอเจนซีส์ - ความร้อนมโหฬารจากภูเขาไฟใต้ดินพลังมหาศาลที่อยู่ใต้อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ได้ละลายถนนสายหลักที่เป็นที่สัญจรเพื่อชมธรรมชาติของนักท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนให้กลายเป็นธารมะตอยสีส้ม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งขาติเยลโลสโตนได้ปิดในส่วนที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้
CBS รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า บางส่วนของถนนในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนได้ถูกปิดตัวลงเนื่องมาจากความร้อนจากใต้ดินที่เกิดมาจากภูเขาไฟใต้ดินที่อยู่ใต้เยลโลว์สโตน ได้ผุดขึ้นมา และทำลายผิวหน้าถนนราดยางแอสฟัลท์
ด้าน แดน ฮอตเติล (Dan Hottle) โฆษกอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ให้สัมภาษณ์สื่อ Living Scienceว่า พื้นผิวหน้าของถนน “Firehole Lake Drive” ซึ่งเป็นทางเส้นหลักเข้าชมธรรมชาติในเยลโลว์สโตนมีอุณภูมิสูงถึง 160 องสา สูงมากพอที่จะหลอมผิวหน้ายางมะตอยสีดำให้กลายเป็นธารแอสฟัลท์สีส้มได้
ความร้อนจากดวงอาทิตย์ในช่วงหน้าร้อนประกอบกับ “ซูปเปอร์ภูเขาไฟใต้ดิน” ที่บังเอิญอยู่ด้านใต้แผ่นดินอุทยานได้หลอมยางมะตอยของถนนสายหลักเส้นนี้ไปเกือบ 3 ไมล์ครึ่ง ฮอตเติลกล่าว และอธิบายเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลใจว่าจะมีการระเบิดออกมาอีกครั้ง “ซูปเปอร์โวลคาโนจะไม่ระเบิด” ฮอตเติลกล่าวกับ Living Science
อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มี พลังงานความร้อนใต้ดินมากกว่าหนึ่งหมื่น และน้ำพุร้อนอีก 500 แห่ง และทางอุทยานแห่งชาติได้สั่งปิดถนน “Firehole Lake Drive” ในอดีต เพื่อซ่อมแซมเนื่องมาจากถนนได้รับความเสียหายจากความร้อนซูปเปอร์โวลคาโนมาแล้ว “ถนนเส้นนี้มีปัญหามาแล้วในอดีต แต่ไม่บ่อยนัก” ฮอตเตอร์กล่าว
ถนน “Firehole Lake Drive” จะเปิดใช้อีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ทางอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีแผนที่จะย้ายบางส่วนของถนน Grand Loop Road ที่นำนักท่องเที่ยวผ่านบ่อน้ำพุร้อน Frying Pan Spring “ถนนเส้นนี้เกิดปัญหาที่ต้องปิดซ่อม เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ทำให้ทางเรามีแนวคิดที่เปลี่ยนเส้นทางนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้ามาในบริเวณที่มีความร้อนใต้ดินอยู่” ฮอตเติลให้สัมภาษณ์ Living Science
ในปี 2013 อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตนปิดตัวลงจากปัญหาวิกฤตชัตดาว์นหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ