เอพี - สำนักข่าวดังต่างชาติระบุเมื่อวันอังคาร (8 ก.ค.) เหตุข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ขวบบนขบวนรถไฟตอนค่ำคืนขณะแล่นจากภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพฯ กระตุ้นความขุ่นแค้นในหมู่ประชาชนทั่วไป เหล่าคนดังและดาราของไทย ที่ต่างเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ พร้อมกันนั้นยังมีการวิงวอนทางโลกออนไลน์ไปยัง คสช.ให้แก้กฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาดกับผู้ต้องหาคดีข่มขืน
เอพีรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้กำกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ระบุว่าพบศพของเด็กหญิงรายดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (8) ใกล้ๆ กับรางรถไฟใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ในรายงานของเอพีบอกต่อว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวกำลังเดินทางด้วยรถไฟกลับจากไปเยี่ยมยายที่ต่างจังหวัด แต่ในช่วงค่ำคืนวันเสาร์ (5) ได้หายตัวไปตู้นอนของบวนรถเร็วจาก จ.สุราษฎร์ธานีมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ อันเป็นเส้นทางยอดนิยมของหมู่นักท่องเที่ยวสะพายเป้ที่มีจุดหมายปลายทางตามชายหาดและเกาะต่างๆ ของไทย
“คดีข่มขืนบนระบบขนส่งสาธารณะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในไทย แต่คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความหละหลวมของระบบรักษาความปลอดภัยที่ปล่อยให้คนร้ายลงมือก่ออาชญากรรมได้” สำนักข่าวเอพีอ้างคำกล่าวของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ
ชายผู้ถูกจับกุมเป็นพนักงานของการรถไฟฯ สำนักข่าวเอพีรายงาน พร้อมอ้าง พ.ต.อ.นภันต์วุฒิเผยด้วยว่าผู้ต้องสงสัยให้การต่อตำรวจว่าเขาเมายาบ้าและเบียร์ตอนที่ลงมือก่อเหตุ ทั้งนี้เขาต้องเผชิญข้อหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่มขืน อำพรางศพ และฆาตกรรม ด้วยโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
สื่อมวลชนชื่อดังระดับสากลแห่งนี้รายงานว่า ในอินสตาแกรม เหล่าดาราและคนดังของไทยพร้อมใจกันเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายต้องประหารชีวิตในคดีข่มขืนเท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดคดีข่มขืนในไทยต้องระวางโทษแค่จำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับเงินเท่านั้น
เอพียกตัวอย่าง “เมญ่า-นนธวรรณ ทองเหล็ง” ที่เพิ่งคว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 โพสต์คำขวัญรณรงค์ลงบนอินสตาแกรม เรียกร้องให้แก้กฎหมาย และแสดงความคิดเห็นว่า “คิดมาเสมอ อยากให้เปลี่ยนซะที จัดการให้เด็ดขาดเถิด ขอร้อง #ข่มขืนต้องประหาร อย่าให้เหตุการณ์โหดร้ายเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก RIP น้องแก้ม”
นอกจากนี้แล้ว เอพียังรายงานด้วยว่า ยังมีการตั้งแคมเปญรณรงค์ทางสื่อสังคมออนไลน์ผ่าน change.org เรียกร้องคณะผู้นำทหารของไทยให้เพิ่มโทษกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดในข้อหากระทำชำเราให้รุนแรงยิ่งขึ้น โดยวันเดียวมีผู้ร่วมลงชื่อเกือบ 15,000 คน
“โทษการกระทำผิดฐานกระทำชำเราในทุกวันนี้มันเบาบางมากระหว่างอยู่ในคุกถ้ามีความประพฤติดีหรือมีการลดหย่อนโทษให้ผ่านไปแค่ 3-4 ปี ผู้ต้องขังก็จะได้ออกมาลอยนวลนอกคุกอีกครั้ง เมื่อพวกเขาออกมา ก่อเหตุกระทำชำเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางรายยิ่งก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าไม่มีใครกลัวอำนาจตุลาการในไทย” เอพีอ้างเนื้อหาของแคมเปญระบุ
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาและขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแสวงหามาตรการความปลอดภัยพิเศษเพื่อป้องกันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ขณะที่นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย บอกกับเอพีว่า “เราจำเป็นต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและจะต้องทบทวนกระบวนการสรรหาพนักงานของเรา”