ชาวมุสลิมในเอเชียเริ่มถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน

เอเอฟพี - ชาวมุสลิมจำนวนมากในเอเชียได้เริ่มเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอนตั้งแต่วันนี้ (29 มิ.ย.) แต่สำหรับในอินโดนีเซีย แม้จะมีการขู่ว่าจะเข้าตรวจค้นบรรดาบาร์ของ "พวกคนบาปทั้งหลาย" กระนั้นก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งเหล่าแฟนฟุตบอลที่พากันไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนเพื่อชมฟุตบอลโลกได้

ชาวมุสลิมทั่วโลกผู้มีศรัทธาได้เริ่มอดอาหารตั้งแต่เช้าจรดค่ำและมุ่งมั่นที่จะสร้างศรัทธาอันแรงกล้าตลอดช่วงเดือนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งจะไปสิ้นสุดลงในวันอีดิลฟิตร

สำหรับในเอเชีย มีหลายประเทศที่เริ่มถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน หนึ่งในคือประเทศอินโดนีเซียที่มีประชากรเป็นชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ประมาณ 225 ล้านคน รวมถึงอัฟกานิสถานที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม , มาเลเซีย , ศรีลังกาและฟิลิปปินส์

บรรดาผู้ที่เคร่งศาสนาในอินโดนีเซียได้เคยประกาศไว้ว่า จะบุกเข้าตรวจค้นบาร์ที่ยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งตามกฏหมายของอิสลามแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งต้องห้าม หรือแม้กระทั่งเปิดให้บริการดึกเกินไปก็ตาม โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งให้บาร์และสถานบันเทิงอื่นๆ ปิดเร็วในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์นี้

พวกหัวรุนแรงอย่างกลุ่ม "แนวร่วมปกป้องอิสลาม" จะทำการ "ตรวจเช็คทุกกิจกรรมเชิงบาปในสถานบันเทิง คาเฟ่และบาร์ต่างๆ ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน" ซาลิม อลาตัส หัวหน้ากลุ่มกล่าวในกรุงจาการ์ตา

อลาตัส ระบุอีกว่า "ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ทำอะไรกับกิจกรรมผิดศีลธรรมเหล่านั้น เราก็จะทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อหยุดยั้งกิจกรรมเหล่านั้น ด้วยวิธีการของเราเอง"

อย่างไรก็ตาม คำขู่ดูเหมือนว่าแทบจะไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย ในการห้ามคนออกไปดูฟุตบอลโลกตามสถานบันเทิงยามค่ำคืน สำหรับประเทศอินโดนีเซียที่มีประชาชนคลั่งไคล้ฟุตบอลและส่วนใหญ่เคร่งศาสนาแค่ในระดับพอประมาณเท่านั้น

มีบาร์หลายแห่งที่ยังคงเปิดให้บริการในกรุงจาการ์ตา เนืองแน่นไปด้วยนักเที่ยวที่เป็นชาวอินโดนีเซียและชาวต่างชาติ ระหว่างคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์

"สำหรับผม การถือศีลอดไม่ส่งผลกระทบอะไรกับความต้องการที่จะดูฟุตบอลโลก" อินทาเนีย เปอร์มาตา นักศึกษาวัย 22 ปี กล่าวออกมาในระหว่างที่กำลังชมการแข่งขันฟุตบอลคู่ดึก ที่เป็นการพบกันของบราซิลและชิลี ภายในร้าน "เซาท์อเมริกัน"

เอ็นดิกาห์ เซติอาดี ปุตรา วัย 27 ปี ระบุว่า ด้วยความที่การแข่งขันฟุตบอลโลกเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แล้ว ความตื่นเต้นในการชมจึงทำให้ผู้คนพากันออกมาดูการแข่งขันตามบาร์ ถึงแม้ว่าจะเป้นช่วงเดือนรอมฎอนก็ตาม

"ถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะพากันออกไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลกแน่นอน" ปุตราบอกกับเอเอฟพี

นักฟุตบอลควบคุมอาหารลำบากกว่าเดิม

เทศกาลถือศีลอดสร้างสถานการณ์ที่ยากลำบากให้กับนักฟุตบอลที่เป็นชาวมุสลิมในการแข่งขันฟุตบอลโลก เนื่องจากการอดอาหารนั้นกระทบต่อการควบคุมอาหารที่พวกเขาต้องทำตามอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

ปัญหานี้ส่งผลมากที่สุดกับทีมฟุตบอลที่มาจากประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอย่าง "แอลจีเรีย" ที่กำลังจะต้องทำการแข่งขันนัดที่ดูจะหนักหนาเหลือเกินในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับทีมเยอรมัน

สำหรับชาวอินโดนีเซียคนอื่นๆ การเริ่มต้นของเดือนรอมฎอนคือช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวหรือเข้าร่วมร่วมสวดภาวนาในวาระพิเศษ โดยมีมีหลายพันคนมุ่งหน้าไปยังมัสยิดอิสติกลัลในกรุงจาการ์ตาตั้งแต่ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) มัสยิดแห่งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทางด้านอัฟกานิสถาน ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม การพูดคุยในระหว่างมื้ออาหารละศีลอดดูจะเน้นไปที่เรื่องการเมืองเป็นหลัก เกี่ยวกับการนับคะแนนเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศนี้

ผลการเลือกตั้งมีกำหนดจะประกาศจะออกมาในช่วงกลางเดือนรอมฎอน ซึ่งทางอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ได้กล่าวหาคู่แข่งของเขา "อาซราฟ กาห์นี" ไปแล้วว่าทำการโกงครั้งมโหฬาร ทั้งนี้ การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม หลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฎอนได้ไม่นาน

ส่วนในศรีลังกา ประเทศที่มีชาวมุสลิมอยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชาชนทั้งหมดจำนวน 20 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ก็ได้เริ่มถือศีลอดเดือนรอมฎอนกันอย่างเงียบเหงา หลังจากที่มีการโจมตีของพวกเคร่งศาสนาอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลังๆ

สภามุสลิมของศรีลังกา ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของชาวมุสลิมกว่า 50 องค์กร ระบุว่า แม้ภาครัฐจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น แต่ก็ยังมีชาวมุสลิมอีกหลายคนที่กลัวการโจมตีจากพวกหัวรุนแรงที่นับถือศาสนาพุทธ หลังจากที่มีคนถูกฆ่าไปแล้ว 4 ราย จากการก่อความวุ่นวายของพวกเคร่งศาสนาที่เกิดขึ้นในเดือนนี้

ทางด้านฟิลิปปินส์ที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ขณะที่ชาวมุสลิมนั้นเป็นคนส่วนน้อยในประเทศนี้ ได้เริ่มถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอนครั้งแรก นับตั้งแต่มีการลงนามเซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏที่นับถือศาสนาอิสลาม หลังจากที่มีการสู้รบกันมานานหลายทศวรรษ

วอน อัล-ฮัก โฆษกของกลุ่ม "แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร" ระบุว่า ทางกลุ่มจะใช้ช่วงเดือนรอมฎอนในการที่จะโน้มน้าวให้หลายกลุ่มที่ยังคงสู้รบกับรัฐบาล ทำการวางอาวุธ

ในตะวันออกกลาง ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เทศกาลถือศีลอดปีนี้เริ่มขึ้นในขณะที่การสู้รบยังคงมีอยู่ในอิรักและซีเรีย