รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือวันนี้ (25 มิ.ย.) ออกมากล่าวประณามภาพยนตร์อเมริกัน แนวคอเมดี ซึ่งมีกำหนดจะเข้าฉายในเร็วๆ นี้ เนื่องจากนำเสนอแผนการลอบสังหารผู้นำ คิม จองอึน โดยชี้ว่าเป็นการก่อการร้าย และขู่จะใช้ “มาตรการตอบโต้แบบไร้ความปรานี” หากวอชิงตันไม่ห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
ภาพยนตร์เรื่อง “The Interview” ซึ่งนำแสดงโดย เซต โรเกน และเจมส์ ฟรังโก มีกำหนดเข้าฉายในเดือนตุลาคมนี้
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการโสมแดงรายงานคำพูดของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือที่ระบุว่า “การสร้างและฉายภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเป็นภัยต่อผู้นำระดับสูงของเราเป็นพฤติการณ์ก่อการร้าย และประกาศสงครามอย่างโจ่งแจ้งที่สุด เราจึงจะไม่ยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของพิธีกรรายการทอล์กโชว์ และผู้อำนวยการผลิตที่สามารถนัดสัมภาษณ์ คิม จองอึน ผู้นำคนที่ 3 ของตระกูลผู้ปกครองเกาหลีเหนือได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งทีเป็นไปได้ยากมาก
จากนั้น สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ก็คัดเลือกให้ทั้งสองเป็นผู้ดำเนินปฏิบัติการลอบสังหารผู้นำโสมแดง
คิม ซึ่งมีวัย 30 ต้นๆ ไม่เคยส่งสัญญาณที่จะแก้ไขผ่อนปรนระเบียบการปกครองประเทศอันเข้มงวดที่ประกาศใช้โดย คิม อิลซุง ผู้สถาปนารัฐเกาหลีเหนือซึ่งเป็นปู่ของเขา ตลอดจน คิม จองอิล ผู้เป็นบิดา ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2011 หรือไม่แม้กระทั่งการลดทอนท่าทีขึงขังตามแบบฉบับผู้นำโสมแดง
เขายังคงควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตด้วยความเข้มงวดอย่างแท้จริง ภายหลังสั่งประหารอาเขยผู้มีอิทธิพลของตน เพื่อขุดรากถอนโคนสิ่งที่เขาชี้ว่า เป็นความพยายามโค่นล้มอำนาจ ทั้งนี้ รายงานที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยอ้างอิงข้อมูลจากผู้ที่สามารถหลบหนี หรือถูกเนรเทศออกจากเกาหลีเหนือ ระบุว่ามีผู้ถูกคุมขังอยู่ในค่ายเชลยกว่า 200,000 คน แต่เปียงยางออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยแย้งว่า ข้อมูลที่อ้างว่ามีการใช้ความโหดร้ายป่าเถื่อนกับคนหมู่มากเหล่านี้ “ถูกกุขึ้นมา”
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศโสมแดงรายงานว่า ชาวเกาหลีเหนือมองว่าชีวิตของผู้นำ “มีค่ามากกว่า” ชีวิตตนเอง
ในเวลานี้ เกาหลีเหนือยังคงควบคุมตัวพลเมืองสหรัฐฯ ไว้ 3 คน โดยพวกเขาถูกกล่าวหาว่า ก่ออาชญากรรมต่างๆ ขณะที่ประเทศนี้ยังมีสถานะเป็นคู่สงครามกับเกาหลีใต้ ชาติพันธมิตรในเอเชียที่สำคัญของวอชิงตัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่า คิมเป็นผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมอเมริกัน และเคยชมการแสดงยอดนิยมของสหรัฐฯ อย่างดิสนีย์โชว์ ทั้งยังมีรายงานว่า ผู้นำคิมได้ชูนิ้วโป้ง ให้ตัวละครดิสนีย์ที่เต้นรำอยู่บนเวที และการบรรเลงเพลง “มาย เวย์” ของแฟรงก์ ซิเนตรา ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ร็อคกี ราชากำปั้น ทุบสังเวียน” อีกด้วย