xs
xsm
sm
md
lg

สนามบินการาจีกลับมาเปิดบริการ รายงานจนท.ระบุตอลิบานหวังทำลายเครื่องบินทุกลำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



อีโคโนมิกส์ - ท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ ในนครการาจี ของปากีสถาน กลับมาเปิดบริการแก่ผู้โดยสารอีกครั้งในช่วงบ่ายวันจันทร์(9) ตามเวลาท้องถิ่น หลังถูกโจมตีก่อการร้ายตั้งแต่ค่ำคืนวันอาทิตย์(8) คร่าชีวิตผู้คน 28 ศพ โดย 10 รายเป็นคนร้ายและในนั้น 3 คนกดระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่สื่อมวลชนอ้างรายงานเจ้าหน้าที่แฉกลุ่มมือปืนหวังทำลายเครื่องบินทุกลำที่จอดอยู่ในสนามบินแห่งนี้ สวนทางกับคำกล่าวอ้างของตอลิบานก่อนหน้านี้

สำนักงานการบินพลเรือน (ซีเอเอ) ของปากีสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าสนามบินกลับมาเปิดบริการแก่ผู้โดยสารอีกครั้ง หลังจากกองกำลังด้านความมั่นคงประกาศว่ามันปลอดภัยแล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นตามหลังทหารได้ส่งมอบท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ คืนแก่สำนักงานการบินพลเรือน หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการตรวจค้นอย่างละเอียดทั่วทั้งบริเวณสนามบินและพื้นที่โดยรอบ โดยทางโฆษกของกองกำลังทหารพราน (เรนเจอร์) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารของปากีสถาน ยืนยันได้มีการส่งมอบสนามบินคืนให้แก่ซีเอเอเรียบร้อยแล้ว หลังไม่พบร่องรอยของวัตถุระเบิดใดๆ

ด้านนายชูจาอัต อาซีม ที่ปรึกษาด้านการบินพลเรือนของนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน เปิดเผยว่าสนามบินกลับมาเปิดบริการได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) หรือมากกว่า 16 ชั่วโมงหลังจากพวกก่อการร้ายเริ่มต้นโจมตี

ตลอดการบินสนามบินที่เริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์(8) มีเที่ยวบินราว 20 เที่ยว ในนั้นรวมถึงเที่ยวบินระหว่างประเทศ 7 เที่ยวต้องเบี่ยงไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่นๆหรือยกเลิก ขณะที่หลังจากทุอย่างสงบลง ทางนายกรัฐมนตรีปากีสถานสั่งการให้เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนและสนามบินอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเท่าที่จะสามารถกระทำได้ และเร่งเปิดท่าอากาศยานเพื่อปฏิบัติการตามปกติ โดยไม่ควรมีปัญหาล่าช้าโดยไม่จำเป็นเข้ามาซ้ำเติมอีก

ส่วนสายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชัลแนล แอร์ไลน์(พีไอเอ) แถลงว่าเที่ยวบินภายในประเทศ จากการาจีสู่อิสลามาบัดและจากอิลามาบัดสู่การาจี เป็นเที่ยวบิน 2 เที่ยวแรกที่กลับมาให้บริการได้ในช่วงค่ำวันจันทร์(ตามเวลาท้องถิ่น)
ท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ ในนครการาจี ของปากีสถาน กลับมาเปิดบริการแก่ผู้โดยสารอีกครั้งในช่วงบ่ายวันจันทร์(9) ตามเวลาท้องถิ่น หลังถูกโจมตีก่อการร้ายตั้งแต่ค่ำคืนวันอาทิตย์(8)
เหตุระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.20 น.ของวันอาทิตย์(ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อนักรบติดอาวุธหนัก 10 คน ใช้ยานพาหนะบุกเข้าไปภายในรั้วของสนามบิน จากนั้นก็แยกออกเป็น 2 กลุ่ม

ต่อมาพวกเขาบุกเข้าสู่ตัวสนามบินจากสองด้านคืออาคารที่พักผู้โดยสารสำหรับกลุ่มผู้แสวงบุญที่ต้องการเดินทางไปยังเมกกะ และส่วนวิศวกรรมที่อยู่ติดกับอาคารผู้โดยสารหลังเก่าซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับเที่ยวบินขนส่งสินค้าและเที่ยวบินวีไอพี

รายงานข่าวระบุว่าคนร้ายบางคนสวมชุดทหาร ติดอาวุธทั้งปืนไรเฟิลจู่โจม ระเบิด และเครื่องยิงจรวด และอย่างน้อยสามคนได้กดระเบิดที่เสื้อเกราะฆ่าตัวตาย

พวกติดอาวุธกลุ่มนี้ ยิงต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงของปากีสถานอย่างดุเดือดจนถึงเช้าวันจันทร์ (9) และพอสถานการณ์ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายแล้ว ก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 28 คน โดย 10 คนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ และ 3 คนในจำนวนนี้กดระเบิดฆ่าตัวตาย

เบื้องต้นในช่วงรุ่งสางวันจันทร์ หลังจากที่ทางการประกาศว่า สามารถเคลียร์พื้นที่ได้แล้ว ปรากฏว่ากลับมีเสียงปืนดังขึ้นภายในสนามบินอีก ทำให้กองกำลังรักษาความมั่นคงต้องกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง

กระทั่งการต่อสู้ผ่านพ้นไปรวมทั้งสิ้นเกือบ 12 ชั่วโมง ริซวาน อัคตาร์ โฆษกของกองกำลังทหารพราน (เรนเจอร์) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารของปากีสถาน แถลงว่า ทางการสามารถเคลียร์พื้นที่จนไม่มีคนร้ายติดอาวุธเหลือแล้ว พร้อมให้รายละเอียดว่า สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้มีอายุระหว่าง 20-25 ปี และเป็นชาวอุซเบก แต่สำทับว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

สื่อมวลชนระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำรายงานเกี่ยวกับเหตุโจมตีนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ซึ่งระบุว่าพวกก่อการร้ายพยายามเข้าควบคุมสนามบินและต้องการทำลายเครื่องบินทุกลำที่อยู่ภายในท่าอากาศยาน แต่ถูกตอบโต้โดยกองกำลังความมั่นคงและสามารถทลายแผนของพวกเขาได้สำเร็จ

ในตอนเช้าวันจันทร์(8) ชาฮิดุลเลาะห์ ชาฮิด โฆษกกลุ่มตอลิบานปากีสถาน ซึ่งใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า เตห์รีค-อี-ตอลิบาน ปากีสถาน (ทีทีพี) ได้ออกมาแสดงตนเป็นกลุ่มที่เข้าโจมตีครั้งนี้ โดยระบุว่า เป็นการแก้แค้นแทนฮาคีมุลเลาะห์ เมห์ซูด ผู้นำของกลุ่มที่ถูกสังหารในการโจมตีด้วยอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ชาฮิดสำทับว่า การโจมตีท่าอากาศยานการาจีครั้งนี้วางแผนมาก่อนที่จะเริ่มการเจรจาสันติภาพ แต่ระงับไว้ระหว่างการเจรจา โดยที่โฆษกผู้นี้ประณามว่า รัฐบาลปากีสถานใช้การเจรจาสันติภาพเป็นเครื่องมือบังหน้าเพื่อทำสงคราม และประกาศว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น

อย่างไรก็ตามในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกมาหลังจากนั้น ทีทีพียังระบุว่า กลุ่มได้เลือกเป้าหมายซึ่งจะลดการสูญเสียของสาธารณชนให้น้อยที่สุด และทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสูญเสียมากที่สุด อันตีความได้ว่า ทีทีพีไม่ได้วางแผนโจมตีเครื่องบินที่มีผู้โดยสารจำนวนมากแต่อย่างใด ซึ่งเป็นทีน่าสังเกตว่าคำแถลงนี้สวนทางกับรายงานของเจ้าหน้าที่ที่นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยสิ้นเชิง
กำลังโหลดความคิดเห็น