เอเอฟพี - เพลิงไหม้ที่เผาผลาญบ้านพักคนชรา และผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ในเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (28 พ.ค.) ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 21 ราย ในเหตุสลดที่ตำรวจชี้ว่า อาจเกิดขึ้นจากผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์วัย 81 ปีคนหนึ่ง
มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 คนจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ซึ่งปะทุขึ้นในเวลาเที่ยงคืนเศษ ณ บ้านพักผู้ป่วยในเทศมณฑลจางซอง ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ 300 กิโลเมตร
บ้านพักฟื้นแห่งนี้มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังเกือบ 80 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไข้ประเภทต้องนอนพักรักษาตัว เช่น ผู้ป่วยจากอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และจำนวนมากอยู่ในวัยชรา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุด ภายหลังเมื่อเดือนที่แล้วเกิดเหตุเรือเฟอร์รีอับปางจนเป็นเหตุให้มีนักเรียนมัธยมปลายเสียชีวิตไปราว 250 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจในเทศมณฑลจางซองกล่าวว่า ชายวัย 81 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ถูกควบคุมตัวเอาไว้ ภายหลังกล้องซีซีทีวีสามารถจับภาพขณะเขาเข้าไปในห้องเก็บของบนชั้นสองของอาคาร ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นจุดที่ไฟปะทุ ถึงแม้จะสามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 30 นาที ผู้ป่วยที่อยู่บนชั้นสองก็ไม่สามารถอพยพออกมาได้เนื่องจากควันไฟหนาทึบแผ่ปกคลุมไปทั่วห้อง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่จางซองกล่าวกับเอเอฟพีผ่านทางโทรศัพท์ว่า “คนส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะสูดควันไฟเข้าไป”
1 ใน 3 พยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุได้เสียชีวิตลงระหว่างพยายามดับไฟด้วยถังดับเพลิง
เหตุเพลิงไหม้ในวันนี้ (28) เกิดขึ้น 2 วันหลังมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 41 คนจากเหตุไฟไหม้ท่ารถใกล้กรุงโซลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (26)
เกาหลีใต้กำลังฟื้นตัวจากความโศกเศร้าจากโศกนาฏกรรมเรือเฟอร์รี “เซวอล” อับปางเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 300 คน โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย
อุบัติภัยเซวอลได้จุดชนวนให้เกิดการตั้งคำถามระดับชาติว่า การเร่งพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดการละเลยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการสำหรับดูแลคนที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย
ลี ฮยุนซอก หัวหน้าฝ่ายบริหารของสถานพักฟื้นจางซอง คุกเข่าและก้มศีรษะลงจนหน้าผากแตะพื้นเพื่อแสดงความสำนึกผิด
คนไข้ 20 รายที่สังเวยชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ อยู่ในหมู่คนไข้ที่นอนพักรักษาตัวบนชั้นสองทั้งหมด 34 คน โดยในจำนวนนี้มีเพียง 7 คนเท่านั้นที่สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้ด้วยตนเอง
คนไข้อีก 7 ชีวิตได้รับความช่วยเหลือจากทีมพนักงานผจญเพลิง แต่อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายเนื่องจากสูดดมควันไฟเข้าไปในปริมาณมาก
ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีประชากรผู้สูงวัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานพยาบาลและบ้านพักคนชราจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัวคือเกือบ 1,300 แห่ง จากที่ในปี 2008 มีเพียง 690 แห่งเท่านั้น
ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่สูงเช่นนี้จะจุดประกายให้เกิดการตั้งคำถามเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งยังจะเพิ่มแรงกดดันให้แก่ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ซึ่งคาดการณ์กันว่าอุบัติภัยเรือเฟอร์รีเซวอลจะส่งผลต่อคะแนนเสียงของพรรคแซนูรีของเธออย่างร้ายแรง ในศึกเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
