เอพี/ASTVผู้จัดการ - สื่อต่างประเทศรายงานข่าวคนไทยไม่รู้สึกตื่นตระหนก หรือประหลาดใจที่กองทัพก่อรัฐประหาร ทว่าแรงต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บนโลกออนไลน์กลับคุกรุ่นขึ้น จากเพลงปลุกใจที่ล้าสมัยและไม่คุ้นหู ด้วยมีข้อเรียกร้องวอนดีเจ “ช่วยเปลี่ยนเพลงได้ไหม”
รายงานพาดหัว THAILAND TO JUNTA: PLEASE CHANGE YOUR SOUNDTRACK ของสำนักข่าวเอพี ระบุว่าสิ่งแรกหลังจากยึดอำนาจ คณะรัฐประหารได้ออกคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องออกอากาศคำประกาศอันเข้มงวด โดยระหว่างที่ว่างเว้นนั้นจะมีการเล่นเพลงปลุกใจรักชาติและฉายภาพนิ่งของโลโก้ คสช. เท่านั้น
ในความพยายามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ทาง คสช. จัดทำเฟซบุ๊กของตนเอง ทว่านายพลเหล่านั้นกลับต้องพบกับสัญญาณบ่งชี้ว่าวัยของพวกเขาล่วงเลยมาไกลแล้ว เมื่อชาวสังคมออนไลน์แห่เข้ามาโพสต์เฟซบุ๊กคร่ำครวญถึงเพลงที่เปิด ขณะที่บางส่วนหยอกล้อขำๆ โพสต์เข้าไปขอเพลงฮิตต่างๆ มากมาย กลายเป็นเรื่องชวนอมยิ้มและเป็นมุมผ่อนคลายท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ตึงเครียด
“ถ้าอยากปฏิรูปการเมือง พวกคุณควรปฏิรูปเพลงของคุณเสียก่อนนะ” ความคิดเห็นหนึ่งโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของคณะรัฐประหาร ซึ่งจนถึงช่วงค่ำวันศุกร์ (23) มีคนเข้ามากดไลค์แล้วมากกว่า 230,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากช่วงเช้าของวันเดียวกัน
เอพีรายงานว่าเพลงที่ถูกร้องขอเข้ามานั้น มีทั้งของศิลปิน จัสติน ทิมเบอร์เลค, ไมเคิล แจ้กสัน และเพลง Let It Go ที่กำลังโด่งดัง รวมไปถึงดนตรีพื้นบ้านต่างๆ “ให้เราได้ฟังเพลงคึกคักกว่านี้หน่อย” อีกความคิดเห็นหนึ่งระบุ
พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก อ้างเหตุผลของการรัฐประหารว่าเป็นวิธีการกู้คืนเสถียรภาพและหลีกเลี่ยงความรุนแรงในวิกฤตที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 28 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน นับตั้งแต่มันเริ่มลุกลามบานปลายขึ้นเมื่อ 7 เดือนก่อน
อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่าผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางคน ยิงมุกว่าเพลงปลุกใจชาตินิยมที่ได้ฟัง อาจกระตุ้นให้เกิดอารมณ์อยากรบราฆ่าฟันกันเหมือนสมัยก่อนมากกว่า “เล่นเพลงอื่นเถอะ เพลงปลุกใจของคุณกำลังทำให้ผมรักชาติมาก จนอยากจะตัดหัวพม่าสักคนแล้ว”
หน้าเฟซบุ๊กนี้ถูกจัดทำขึ้นมาเมื่อวันอังคาร (20) เพื่อโพสต์ประกาศและคำสั่งของทหาร แต่เสียงคร่ำครวญเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในวันพฤหัสบดี (22) หลังทีวีทุกช่องถูกแทนที่ด้วยฉากสีคราม พร้อมด้วยโลโก้ของเหล่าทัพและมีการเล่นเพลงปลุกใจของทหารประกอบ
ทั้งนี้ เอพีรายงานต่อไม่ปรากฏว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปฏิบัติการปราบปรามผู้ชุมนุม ขณะที่มีคำสั่งเตือนระงับให้บริการสื่อสังคมออนไลน์นั้นๆ หากพบข้อความต้านคณะรัฐประหารใดๆ
กระนั้นก็ดีก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่โพสต์แสดงความเห็นเรื่องดนตรี เพราะมีผู้ปกครองบางรายก็ร้องขอให้โทรทัศน์ช่องสำหรับเด็กๆ กลับคืนจออีกครั้ง เนื่องจากลูกหลานได้หยุดยาวจากคำสั่งให้หยุดเรียนในวันศุกร์ (23)
“ขอให้ผมได้ดูทีวีอีกครั้งเถอะ อย่างน้อยขอเป็นช่องการ์ตูนของลูกๆ ก็ได้ มันไม่กระทบกับความมั่นคงของชาติหรอกครับ” คุณพ่อคนหนึ่งโพสต์ นอกจากนี้ ก็ผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ภาพนายทหารหุ่นล่ำถอดเสื้อนายหนึ่ง พร้อมกับถามว่า “พวกคุณรู้เปล่า ว่าเขามีแฟนหรือยัง ฉันชอบเขาค่ะ”
รัฐประหารเมื่อวันพฤหัสบดี (22) ถือเป็นครั้งที่ 12 นับตั้งแต่สิ้นสุดระบอบราชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี 1932 แต่หลังจากโค่นอำนาจรัฐบาล ได้เกิดความสับสนหลายๆ อย่าง ในนั้นรวมถึงคำถามที่ว่าทำไมทีวีทุกช่องถึงกลับมาออกออากาศได้ตามปกติตอน 18.00 น. ของวันศุกร์(23) จากนั้นในช่วงค่ำ บางช่องก็กลับไปดึงสัญญาณจากช่อง 5 เหมือนเดิม
ผู้ติดตามเฟซบุ๊กของคณะรัฐประหาร หลั่งไหลกันเข้าไปโพสต์แสดงความขอบคุณที่เลิกเปิดเพลงและกลับมาออกอากาศรายการโทรทัศน์ตามปกติ “ทีวีกลับมาแล้ว ขอบคุณที่ฟังเสียงประชาชน” ผู้โพสต์รายหนึ่งเขียน