เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ลดลงวานนี้ (20 พ.ค.) นักลงทุนจับตาสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองของอเมริกา ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนัก ผิดหวังผลประกอบการบริษัทค้าปลีกและเฟดส่อเห็นด้วยขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ทำให้ทองคำขยับขึ้น จากความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 17 เซ็นต์ ปิดที่ 102.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 32 เซ็นต์ ปิดที่ 109.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันนิวยอร์กขยับลง ด้วยนักลงทุนจับตาข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ของอเมริกาที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (21) ความเคลื่อนไหวของน้ำมันลอนดอนปิดบวก จากความกังวลต่อความเป็นไปได้ของสงครามกลางเมืองในลิเบีย ชาติผู้ส่งออกน้ำมันดิบเบาสู่ยุโรป หลังอดีตนายพลนอกราชการรายหนึ่งนำกองกำลังปฏิวัติรัฐบาลและพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (20) ดิ่งลงแรง จากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทค้าปลีก และหลังจากธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดหมายไว้
ดาวโจนส์ ลดลง 137.55 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,374.55 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 12.25 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,872.83 จุด แนสแดค ลดลง 28.29 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,096.89 จุด
ผลประกอบการที่ย่ำแย่ของเหล่าบริษัทค้าปลีกฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างแรง โดยบริษัทที่่น่าผิดหวังที่สุดคือ ดิกส์ สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ ที่ปิดลบร้อยละ 18.0 และ เออร์เบิ้น เอาท์ฟิตเตอร์ส ปิดลบร้อยละ 8.8
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่คาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็ผลักให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและเป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้ (20) ปิดบวกเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,294.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์