xs
xsm
sm
md
lg

จีนระงับร่วมมือ-สับUS 'ปากถือศีล'หลังมะกันฟ้อง5ทหารจีนแฮ็กข้อมูลธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - ปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันในวันอังคาร (20 พ.ค.) ว่าประพฤติตนมือถือสากปากถือศีลและสองมาตรฐาน พร้อมระงับความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยที่ก่อนหน้านั้นก็เรียกเอกอัครราชทูตอเมริกันมารับฟังการประท้วง เป็นการตอบโต้ที่อัยการสหรัฐฯกระทำสิ่งที่ไม่เคยมีตัวอย่างมาก่อนเมื่อวันจันทร์ (16) โดยตั้งข้อหานายทหารจีน 5 คน ว่าเจาะระบบคอมพิวเตอร์ล้วงข้อมูลลับทางการค้า

ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และ 2 ของโลก มีการโต้แย้งกล่าวหากันในเรื่องการแอบจารกรรมทางไซเบอร์มานานแล้ว และในครั้งนี้กระทรวงกลาโหมจีนก็ตอบโต้ว่าข้อกล่าวหาของวอชิงตัน “เป็นเรื่องที่สหรัฐฯเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาเองอย่างแท้จริง เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องการชักจูงสาธารณชนให้เข้าใจผิด ด้วยแรงจูงใจที่แอบแฝงซ่อนเร้น”

“ตั้งแต่กรณี 'วิกิลีกส์' จนถึง 'สโนว์เดน' ต่างก็ฟ้องชัดเจนว่า สหรัฐฯทั้งมือถือสากปากถือศีล และประพฤติตนแบบสองมาตรฐานใน เรื่องการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์” กระทรวงกลาโหมจีนระบุในคำแถลงทางเว็บไซต์ชองตนเมื่อวันอังคาร (20)

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เรียกตัวแม็กซ์ บอว์คัส เอกอัครราชทูตอเมริกัน เข้ารับฟังการประท้วงกรณีการสั่งฟ้องดำเนินคดีนายทหารจีนทั้ง 5 พร้อมระบุว่า การกระทำของวอชิงตันกระทบต่อความสัมพันธ์สองประเทศอย่างรุนแรง และจีนจะจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินการตอบโต้ต่อไป

ตามเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน เจิ้ง เจ๋อกวง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศแดนมังกร ซึ่งเรียก บอรว์คัส เข้าพบตั้งแต่คืนวันจันทร์ (19) ยังเรียกร้องให้วอชิงตันอธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับรายงานที่ว่า อเมริกาสอดแนมรัฐบาล ธุรกิจ มหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไปของจีนมานานแล้ว

นอกจากนี้จีนยังประกาศระงับความร่วมมือกับอเมริกาในเรื่องการรักษาความปลอดภัยระบบไซเบอร์ รวมทั้งสั่งห้ามหน่วยงานรัฐบาลติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 ของไมโครซอฟท์บนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์

การตอบโต้อย่างฉุนเฉียวของปักกิ่งมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันจันทร์ วอชิงตันยื่นฟ้องนายทหารจีน 5 คนข้อหาเจาะระบบข้อมูลของบริษัทอเมริกันเพื่อล้วงความลับทางการค้าในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ โลหะ นิวเคลียร์ ฯลฯ ส่งผลให้คนอเมริกันสูญเสียตำแหน่งงาน นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติเกี่ยวกับกรณีการสอดแนมทางไซเบอร์
หมายจับนายทหารจีนทั้ง 5 คน ที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) นำออกเผยแพร่ในวันจันทร์ (19)  ทั้งนี้อัยการสหรัฐฯได้ยื่นฟ้องพวกเขาในข้อหาเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของอเมริกัน เพื่อทำจารกรรมทางเศรษฐกิจและล้วงความลับทางการค้า ทางด้านปักกิ่งได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและตอบโต้ด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า วอชิงตันต่างหากเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล และ สองมาตรฐาน
อิริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาไปดำเนินคดีในศาลเมืองพิตส์เบิร์ก และย้ำว่า อเมริกาจะใช้ทุกวิถีทางหากปักกิ่งปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือ

“คดีนี้ควรเป็นสัญญาณเตือนถึงความร้ายแรงของภัยคุกคามทางไซเบอร์” โฮลเดอร์สำทับ

ทั้งนี้ คณะลูกขุนใหญ่ของสหรัฐฯมีมติให้ตั้งข้อหานายทหารจีนทั้ง 5 คน รวม 31 กระทง แต่ละกระทงมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี โดยที่ระบุว่านายทหารเหล่านี้สังกัดหน่วย 61398 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน

ตามรายงานที่บริษัทรักษาความปลอดภัย แมนเดียนต์ ของอเมริกาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วระบุว่า หน่วยดังกล่าวของจีนซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่นับพันคน ปฏิบัติการจากอาคาร 12 ชั้นหลังหนึ่งบริเวณชานเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและความลับของหน่วยงานรัฐบาลต่างชาติ

การสอดแนมทางไซเบอร์เป็นประเด็นโต้แย้งระหว่างมหาอำนาจ 2 รายนี้มายาวนาน ทว่า การเดินหมากครั้งล่าสุดของวอชิงตันเป็นที่คาดหมายว่า จะทำให้สัมพันธ์สองประเทศตึงเครียดหนัก หลังจากที่โต้แย้งกันในประเด็นอื่นๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการอ้างสิทธิ์ของพญามังกรในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเสียใจที่ปักกิ่งระงับความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ แต่ยังคาดว่า การประชุมระดับสูงประจำปีของสองประเทศที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฏาคมที่ปักกิ่ง และจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางไปร่วมหารือนั้น จะเป็นไปตามกำหนดเดิม

ปักกิ่งกล่าวหามาแรมปีว่า อเมริกามือถือสากปากถือศีล แอบสอดแนมไปทั่วโลก และการออกมาแฉของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ยืนยันว่า วอชิงตันเจาะระบบข้อมูลของจีนอย่างกว้างขวางจริงๆ

ในวันอังคาร กระทรวงกลาโหมจีนยืนกรานอีกครั้งว่า รัฐบาลและกองทัพจีนไม่เคยดำเนินการหรือมีส่วนร่วมในการโจรกรรมความลับทางการค้าผ่านการสอดแนมทางไซเบอร์ ทว่า ในทางกลับกัน อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้โจมเครือข่ายข้อมูลของจีนรายใหญ่ที่สุด

กระทรวงกลาโหมจีนอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เครือข่ายแห่งชาติว่า นับจากกลางเดือนมีนาคม-กลางเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีเครือข่ายโทรจันฮอร์ส หรือ บ็อตเน็ตเซิร์ฟเวอร์ ในอเมริกา รวม 2,077 เครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ ได้เข้าควบคุมโดยตรง โฮสต์ระบบคอมพิวเตอร์ในจีนรวม 1.8 ล้านเครื่อง

“จีนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้อเมริกาหยุดการกระทำดังกล่าว แต่อเมริกากลับไม่เคยชี้แจงเรื่องนี้หรือขอโทษต่อประชาชนจีนเลย” สำนักข่าวซินหวารายงานทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น