เอเอฟพี - ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จ “จาริกแสวงบุญสวดภาวนา” ณ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ (Holy Land) ชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์จะอาศัยโอกาสนี้ทำแต้มสร้างความได้เปรียบในประเด็นการเมือง
แม้ว่านครรัฐวาติกันระบุว่า จุดประสงค์หลักในการเสด็จเยือนของพระสันตะปาปาครั้งนี้ คือเพื่อสมานรอยร้าวระหว่างโลกคาทอลิกกับโลกออร์โธดอกซ์ ที่เกิดขึ้นมานานหลายร้อยปี ทว่าทั้งสองฝ่ายก็คงจะต้องเฝ้าจับตามองทุกอิริยาบถของพระองค์อย่างใกล้ชิด
สำหรับอิสราเอล นี่จะเป็นโอกาสเดียวที่จะสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของโลก ไปจากกิจกรรมการตั้งนิคมชาวยิวที่กำลังเดินหน้าอยู่ในขณะนี้
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลกล่าวกับเอเอฟพีโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า “การเสด็จเยือนครั้งนี้จะสร้างความสำเร็จให้แก่เราอย่างแท้จริง” ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่า คาดหมายว่าการจาริกของโป๊ปฟรานซิสจะช่วยดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญทางคริสต์ศาสนาเพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์
ในความเป็นจริงแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีเวลาเสด็จเยือนอิสราเอลไม่นานนักระหว่าง “การจาริกแสวงบุญ สวดภาวนา” ซึ่งจะเริ่มต้นที่จอร์แดนวันเสาร์นี้ (24)
พระองค์ทรงมีกำหนดเสด็จเยือนอิสราเอลและปาเลสไตน์ในวันอาทิตย์ (25) โดยเริ่มต้นจากเมืองเบธเลแฮม ทางใต้ของเขตเวสต์แบงก์
คุณพ่อ จามัล คาเดอร์ อัครบิดรละตินแห่งเยรูซาเล็มกล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวว่า “พระองค์จะทรงโดยสารเฮลิคอปเตอร์จากจอร์แดนไปยังเมืองเบธเลเฮมของปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพระองค์ทรงยอมรับดินแดนปาเลสไตน์”
ที่เมืองเบธเลเฮม สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีกำหนดพบปะกับ ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ จากนั้นก็จะฉลองพิธีมิสซา ณ โบสถ์พระคริสตสมภพ อันเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู ก่อนที่จะเสด็จเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยที่อยู่ใกล้เคียง
คาเดอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “ตามที่ทราบกันดีว่าพระองค์คือใคร และทรงห่วงใยผู้เดือดร้อนขนาดไหน ผมมั่นใจว่าพระองค์จะตรัสปกป้องผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ที่อิสราเอลยึดครอง”
ภายหลังบินไปลงที่สนามบินเบน กูเรียง ในกรุงเทลอาวีฟ โดยมีประธานาธิบดี ชิมอน เปเรซ และนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลคอยให้การต้อนรับ พระองค์ทรงจัดการประชุมระดับสูงร่วมกับเหล่าผู้นำนิกายออร์โธดอกซ์ ก่อนจะทรงพำนัก ณ ทำเนียบที่พักทูตผู้แทนขององค์สันตะปาปา ในเยรูซาเล็มตะวันออก พื้นที่ซึ่งอิสราเอลผนวกเข้าเป็นดินแดนของตน
เมื่อปี 1967 อิสราเอลได้เข้ายึดครองพื้นที่ทางตะวันออกของนครเยรูซาเล็ม แล้วเรียกเมืองทั้งเมืองว่า “เมืองหลวงที่ถูกผนึก และไม่มีวันถูกแบ่งแยก” ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ประชาคมนานาชาติไม่ยอมรับ
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า โป๊ปฟรานซิสจะทรงพบกับนายกรัฐมนตรี เนทันยาฮู ณ มหาวิหารโนเทรอดาม ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเยรูซาเล็มตะวันตกกับเยรูซาเล็มตะวันออก และอยู่ภายใต้ความควบคุมของนครรัฐวาติกัน เพื่อหารือกันในประเด็นการเมือง
เขากล่าวว่า “ในตอนนั้น เราจะมีโอกาสทูลอธิบายพระองค์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองในภูมิภาคนี้ ในมุมมองของเรา”
ระหว่างการเดินทางเยือน มีความคาดหมายว่า พระองค์จะทรงเรียกร้องให้อิสราเอลใช้สันติวิธีแก้ไขความขัดแย้งที่มีกับปาเลสไตน์
อาร์ชบิชอป จูเซปเป ลัซซารอตโต ทูตผู้แทนขององค์พระสันตะปาปากล่าวกับผู้สื่อข่าววานนี้ (18) ว่า “จุดประสงค์ในการเสด็จเยือนของพระองค์ คือการส่งเสริมไม่ให้ทั้งสองฝ่ายหวาดกลัวกันและกัน และสามารถพูดคุย ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสันติ”
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายจะเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด หากพระองค์ตรัสถึงนิคมชาวยิว และการสร้างกำแพงกั้นเขตเวสต์แบงก์ หรือหากพระองค์ตรัสถามถึงนักโทษ หรือผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์