เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รัฐบาลภูฏาน ประกาศในวันพุธ (14) เดินหน้าแผนการสร้างประเทศของตนให้เป็นดินแดนแห่งความปลอดภัยทางอาหาร ตั้งเป้าอาหารที่ผลิตในภูฏานจะต้องปลอดจากสารเคมี 100 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 10 ปี ขณะที่ “กษัตริย์จิกมี” ทรงเปิดไฟเขียวให้รัฐบาลเชิญผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกมาเป็นที่ปรึกษา
ลีออนโป เยชีย์ ดอร์จี รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและป่าไม้แห่งราชอาณาจักรภูฏานแถลงที่กรุงทิมพู เมืองหลวงของประเทศโดยระบุว่า ราชอาณาจักรกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ มีแผนจะเดินหน้าสู่การเป็น “ประเทศแรกของโลก” ที่ผลิตและบริโภคอาหารปลอดสารพิษแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน 1 ทศวรรษจากนี้
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้ของภูฏาน ได้รับการขานรับจาก เปมา กยัมต์โช ผู้นำพรรคฝ่ายค้านซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเดียวกันมาก่อน โดยผู้นำฝ่ายค้านภูฎานประกาศพร้อมจับมือกับรัฐบาลเพื่อร่วมกันผลักดันโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ แม้ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะยังคงไม่มั่นใจว่า แผนการสร้างภูฏานให้เป็นประเทศที่มีอาหารปลอดภัยโดยสมบูรณ์เป็นประเทศแรกของโลกนั้น จะสำเร็จได้ภายในกรอบเวลา 10 ปีตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้หรือไม่
รายงานข่าวระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก องค์พระประมุขแห่งภูฏาน ทรงให้การสนับสนุนแผนดังกล่าวของรัฐบาล พร้อมทรงมีพระราชดำริให้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและการเกษตรจากทั่วโลก มายังภูฏานเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในการดำเนินโครงการนี้
ข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจของรัฐบาลภูฏานระบุว่า ขณะนี้ผลผลิตทางการเกษตรราว 70 เปอร์เซ็นต์ของประเทศเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดจากสารเคมีและยาฆ่าแมลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว
อย่างไรก็ดี ข้อมูลของทางการพบว่า เกษตรกรที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกและภาคกลางของภูฏาน ยังคงเป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการเพาะปลูกและแปรรูปค่อนข้างสูง
และเกษตรกรในภูมิภาคดังกล่าวยังคงมีความไม่มั่นใจว่า รายได้และผลผลิตของพวกเขาจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด หากพวกเขาเลิกใช้สารเคมีอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ ราชอาณาจักรภูฏานซึ่งเป็นบ้านของประชากรมากกว่า 740,000 คน ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร “Business Week” ของสหรัฐฯ ให้เป็นประเทศที่ “มีความสุขที่สุดในเอเชีย” และเป็นดินแดนแห่งความสุข “อันดับที่ 8 ของโลก”