เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชื่อดังชาวแคนาดา เปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อดัง “ซีเอ็นบีซี เอเชีย” ระบุ “การเลือกตั้ง” เป็นทางออกเดียวของวิกฤตการเมืองในไทย แต่พวก “ชนชั้นนำ” บางกลุ่มในสังคมไทยกำลังขัดขวาง “ประชาธิปไตย” ทุกวิถีทาง พร้อมย้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงเป็นผู้นำที่ชอบธรรม ซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชนชาวไทย จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้ “ตระกูลชินวัตร” ต้องยอมวางมือทางการเมือง
โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เจ้าของสำนักงานกฎหมาย “อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ทเนอร์ส” เปิดใจให้สัมภาษณ์กลางรายการ “Squawk Box” ทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เอเชีย โดยระบุว่า “การเลือกตั้งครั้งใหม่” ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยถือเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และถือเป็นทางออกเดียวของวิกฤตการเมืองในประเทศไทยเวลานี้
อย่างไรก็ดี อัมสเตอร์ดัม ซึ่งได้รับการว่าจ้างตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2010 จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจและหนีความผิดฐานทุจริตอยู่ในต่างแดน ระบุว่า ในขณะนี้มีความพยายามของบรรดา “ชนชั้นนำ” ในสังคมไทย รวมไปถึงศาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการรวมหัวกันตั้งรัฐบาลใหม่ด้วยหนทางทีมิใช่วิถีประชาธิปไตย และคนกลุ่มนี้ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้งตามกติกาประชาธิปไตย
ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท. ทักษิณ ยังกล่าวต่อสื่อต่างประเทศดังกล่าวว่า ประชาชนชาวไทยสมควรได้รับโอกาสให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศตัวเอง แต่ดูเหมือนพวกชนชั้นนำของไทยจะไม่เคารพในเสรีภาพของประชาชนแม้แต่น้อย
อัมสเตอร์ดัม ยังระบุด้วยว่า ตัวเขามองไม่เห็นเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องยอม “วางมือทางการเมือง” เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ต่างเป็น “ผู้นำที่ชอบธรรม” ที่ได้อำนาจมาจากกระบวนการประชาธิปไตยและยังเป็นที่นิยมของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ จากนโยบายต่างๆ ที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เช่น นโยบายสร้างหลักประกันด้านสุขภาพ และการช่วยให้คนไทยราว 25 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ “หลุดพ้นจากความยากจน”
ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ทนายความชาวแคนาดาผู้นี้ ได้กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคการเมืองที่ได้ชื่อว่า “โกงกินมากที่สุด” ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และจวกกลุ่ม “กปปส.” ภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า มีพฤติกรรมที่ไม่ต่างจาก “อันธพาลข้างถนน” ที่อยู่เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมหลายต่อหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีพฤติกรรมอุกอาจเหิมเกริมถึงขั้นบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ที่เป็นศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดิน