สหรัฐฯ ส่งอากาศยานพร้อมนักบินออกตามหา “นร.หญิงไนจีเรีย” เหยื่อลักพาตัวกบฏ “โบโก ฮารัม”

เอเอฟพี - สหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำลังส่งอากาศยาน “แบบมีนักบินควบคุม” ไปยังไนจีเรีย เพื่อช่วยตามหาเด็กนักเรียนหญิงกว่า 200 คนที่ถูกลักพาตัวไป หลังรัฐบาลไนจีเรียเมินข้อแลกเปลี่ยนของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ที่เสนอจะปล่อยตัวเด็กเหล่านี้ หากรัฐบาลยอมปล่อยสมาชิกของกลุ่มที่ถูกคุมขังอยู่

เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (12) ว่า “เราได้ส่งภาพถ่ายจากดาวเทียมไปให้ไนจีเรียดู และส่งอากาศยานไอเอสอาร์ (เพื่อสนับสนุนด้านข่าวกรอง เฝ้าระวัง และตรวจการณ์) ไปยังไนจีเรีย โดยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไนจีเรีย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้นี้ไม่ขอระบุว่าเครื่องมือที่ว่าคืออะไร และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะส่งอากาศยานประเภทใดไปประจำการในที่ใดบ้าง

อาบูบาการ์ เชเกา ผู้นำกบฏโบโก ฮารัมกล่าวในวิดีโอคลิปที่เอเอฟพีนำออกเผยแพร่วานนี้ (12) ว่า จะยอมปล่อยตัวนักเรียนหญิงที่ถูกลักพาตัวไป ก็ต่อเมื่อรัฐบาลปล่อยตัวนักรบของพวกเขาซึ่งถูกจับกุม

ทั้งนี้ เชเกาได้ยื่นข้อเสนอผ่านทางคลิปวิดีโอความยาว 27 นาที ซึ่งเผยภาพเด็กหญิงราว 130 คนซึ่งถูกลักพาตัวไปจากโรงเรียน ในเมืองไชบอค ซึ่งอยู่ห่างไกลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตั้งเมื่อเกือบ 1 เดือนก่อน

นอกจากนี้ ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้ยังกล่าวด้วยว่า เด็กหญิงที่ปรากฏในวิดีโอคลิปได้เปลี่ยนมารับศาสนาอิสลาม โดยที่ทั้งหมดสวมชุดตามประเพณีมุสลิม พร้อมสวดบทแรกของคัมภีร์อัลกุรอ่านในพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผย

เมื่อถามว่ารัฐบาลไนจีเรียจะปฏิเสธข้อแลกเปลี่ยนของเชเกาหรือไม่ อับบา โมโร รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยไนจีเรียกล่าวกับเอเอฟพีว่า “เป็นเช่นนั้นแน่นอน”

ทางด้าน เจน ซากี โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองกำลังสืบหารายละเอียดทั้งหมดจากเบาะแสในวิดีโอคลิปที่อาจเป็นประโยชน์ต่อภารกิจช่วยเหลือเด็กหญิงที่หายไป

การปรากฏตัวของเชเกาทางวิดีโอคลิป ได้จุดชนวนให้เกิดกระแสความโกรธเคืองขึ้นทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถเรียกเสียงสนับสนุนจากเหล่าบุคคลสำคัญระดับโลก เช่น มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เด็กนักเรียนหญิงทั้งหมด 276 คนถูกลักพาตัวไปจากเมืองไชบอก อันเป็นที่ตั้งของชุมชนคริสต์ศาสนิกชนที่มีขนาดใหญ่พอสมควร โดยตำรวจระบุว่า จนถึงตอนนี้ยังหาเด็กหญิงอีก 223 คนไม่พบ

รัฐบาลไนจีเรียถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ช้าเกินไป และถูกนานาชาติกดดันให้ลงมือแก้ไขวิกฤตครั้งนี้

ประธานาธิบดี กูดลัก โจนาธาน แห่งไนจีเรียได้ตอบรับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และอิสราเอล ซึ่งได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปช่วยตามหานักเรียนหญิงเหยื่อลักพาตัว

นับตั้งแต่ปี 2009 โบโกฮารัม ได้ก่อเหตุไม่สงบซึ่งทวีความเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ในพื้นที่ตอนเหนือของไนจีเรีย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โดยมุ่งโจมตีโรงเรียนที่ยึดหลักสูตรการเรียนการสอนแบบโลกตะวันตก โบสถ์คริสต์ และเป้าหมายที่เป็นบุคคลในรัฐบาล

โจนาธานกล่าวว่า เขาเชื่อว่าเด็กหญิงเหล่านี้ยังอยู่ในไนจีเรีย และมีการดำเนินภารกิจการค้นหาในพื้นที่ป่าแซมบิซาของรัฐบอร์โน จุดที่ก่อนหน้านี้กองทัพไนจีเรียตรวจพบค่ายกบฏโบโกฮารัม และโกดังเก็บอาวุธ

อย่างไรก็ตาม มีกระแสหวั่นวิตกว่าเด็กสาวเหล่านี้อาจถูกส่งออกนอกพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ชาด และแคเมอรูน