เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีรักษาการแห่งยูเครน อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ ได้เซ็นคำสั่งรื้อฟื้น กม. เรียกเกณฑ์ทหารเมื่อวานนี้ (1) เพื่อแก้วิกฤตความมั่นคงที่เปราะบางในภาคตะวันออกของยูเครน และในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ได้ต่อสายถึงประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ขอให้ช่วยเหลือปล่อยตัวคณะผู้สังเกตการณ์ทหารต่างชาติที่ถูกควบคุมตัวไว้ในยูเครนตะวันออก ที่พวกเขาถูกจับได้ที่ด่านตรวจของกลุ่มผู้ประท้วงยูเครนนิยมรัสเซียในเมืองสลาเวียนส์กในวันศุกร์ที่ผ่านมา (25)
การรื้อฟื้นคำสั่งเรียกเกณฑ์กำลังพลนี้ มีขึ้นหลังจากผู้ประท้วงนิยมมอสโกใช้กำลังเข้ายึดสำนักงานอัยการระดับภูมิภาคในเมืองโดเนตสค์ได้ ซึ่งทางเคียฟได้กล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้ในการเข้ายึดที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นในภาคตะวันออกของยูเครน ในขณะที่รัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และพบว่ายังมีกองกำลังรัสเซียร่วม 40,000 คนประจำไม่ห่างพรมแดนยูเครน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรักษาการแห่งยูเครน อเล็กซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ ได้ยอมรับในวันพุธ (30 เมษายน) ว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนของเขาไม่สามารถควบคุมความไม่สงบที่ภาคตะวันออกได้ และเป้าหมายที่สำคัญในขณะนี้คือ การป้องกันไม่ให้วิกฤตลุกลามไปส่วนอื่นของประเทศ
นอกจากนี้ ตูร์ชินอฟ ยังกล่าวว่า ในขณะนี้กองทัพยูเครนอยู่ในระยะเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด ท่ามกลางความวิตกที่กองกำลังรัสเซียจะเคลื่อนพลบุกเข้ามายังยูเครน
ในวันพฤหัสบดี (1) ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแถลงว่า “การรื้อฟื้นกฎหมายเรียกเกณฑ์กำลังพลถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ ที่มีหน่วยกองกำลังติดอาวุธนิยมรัสเซียได้ยึดที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่ง ที่เป็นอันตรายต่ออาณาเขตแดนของยูเครน”
ทางด้าน โจนาธาน มาร์คัส ผู้สื่อข่าวบีบีซีได้ให้ความเห็นว่า การตัดสินใจล่าสุดของเคียฟแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะเป็นในระยะสั้น เแต่เป็นการส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ด้านบวก ซึ่งที่จริงแล้วกองทัพยูเครนที่ขาดเงินสนับสนุนมาเป็นเวลานานนั้นไม่มีทางที่จะสามารถรับมือกับกองกำลังรัสเซียที่ขณะนี้ตั้งรออยู่บริเวณพรมแดนได้
และ มาร์คัส เสริมต่อว่า ความจริงแล้วศึกชิงเขตแดนได้เริ่มไปนานแล้ว และเคียฟได้ตกเป็นฝ่ายเพี่ยงพล้ำ ทั้งนี้นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า กองทัพยูเครนมีทั้งหมด 130,000 นาย และสามารถเพิ่มได้ถึง 1 ล้านนายจากการเรียกกองหนุนเพิ่มเติม
ในปลายปี 2013 เคียฟได้ยกเลิกกฎหมายเรียกเกณฑ์ชายชาวยูเครนเข้ารับใช้ชาติจากการที่อดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิช ต้องการปฏิรูปการเกณฑ์กำลังพลใหม่เพื่อสร้าง “กองทัพมืออาชีพ” ขึ้น
และเมื่อวานนี้ (1) ที่เมืองโดเนตสค์ กลุ่มผู้ประท้วงนิยมรัสเซียได้โจมตีตึกที่ทำการอัยการ โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานเป็นสายให้เคียฟ และหลังจากนั้นฝูงผู้ประท้วงได้กรูเข้าไปภายในตัวสำนักงาน ทำการยึดอาวุธและโล่จากตำรวจ และโบกธงสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์
นอกจากนี้ ผู้ประท้วงหลายคนได้ร้องว่า “ฟาสซิสต์! ฟาสซิสต์!” และมีรายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ โดยมีตำรวจนายหนึ่งได้วิ่งหนีออกจากตัวสำนักงานอัยการ และภายหลังให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “จะให้ผมรับมือกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายอย่างนี้ได้อย่างไร”
และในวันพฤหัสบดี (1) นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ได้ต่อสายถึงประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ขอให้ช่วยเหลือปล่อยตัวคณะผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลุ่มทหารต่างชาติที่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ในยูเครนตะวันออก โดยพวกเขาถูกจับที่ด่านตรวจของกลุ่มผู้ประท้วงยูเครนนิยมรัสเซียในเมืองสลาเวียนส์กในวันศุกร์ที่ผ่านมา (25)
ในขณะที่ปูตินได้ย้ำข้อเรียกร้องให้ทางเคียฟถอนกำลังทหารที่ออกปฏิบัติการที่ทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาระดับชาติ
นอกจากนี้ ผู้นำเยอรมันได้พบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ในวันนี้ (2) เพื่อปรึกษาในวิกฤตยูเครน ซึ่งในเบื้องต้นทั้งคู่มีความเห็นที่สอดคล้องไปทางเดียวกัน