บีบีซี - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศก้องจะตอบโต้แน่หากผลประโยชน์ในยูเครนถูกโจมตี พร้อมยกสงครามจอร์เจียในปี 2008 มากระตุ้นความทรงจำฝ่ายตรงข้าม ขณะเดียวกันก็กล่าวหาสหรัฐฯ บงการฉากละครแห่งวิกฤตเคียฟ
นายลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อาร์ที ว่าการที่เคียฟดำเนินการปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายรอบใหม่ระหว่างการเดินทางมาเยือนของรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯคือข้อสนับสนุนคำกล่าวหาของเขาเป็นอย่างดี
รัฐบาลยูเครนกำลังตะเกียกตะกายจัดการกับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายนิยมรัสเซียซึ่งบุกยึดอาคารราชการในหลายเมืองทางภาคตะวันออกของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่โดเนตส์คและลูฮันส์ค โดยเคียฟและชาติตะวันตกกล่าวหามอสโกสั่งการคนเหล่านั้น แต่รัสเซียก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
กลุ่มกบฏได้เแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของตนเอง ยุทธวิธีเดียวกับที่เคยถูกใช้ควบคุมแหลมไครเมียของยูเครนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนสุดท้ายแล้วจะมีการลงประชามติแยกตัวออกจากเคียฟแล้วหันไปซุกปีกรัสเซีย
ในวันอังคาร (22) สหรัฐฯ เรียกร้องมอสโกให้ขอกลุ่มมือปืนนิยมรัสเซียยอมวางอาวุธและออกจากอาคารที่บุกยึด นอกจากนี้ยังวิงวอนเครมลิน หยุดใช้โวหารที่ก้าวร้าว ไม่อย่างนั้นจะโดนมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (23) นายลาฟรอฟประกาศกร้าวว่า “ถ้าผลประโยชน์ของเราซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่ชอบธรรมตามกฎหมายของรัสเซียถูกโจมตีโดยตรง ก็ขอให้ดูเซาท์ออสเซเตียเป็นตัวอย่าง ผมไม่เห็นทางอื่นนอกจากการตอบโต้ที่สอดคล้องตามกฎหมายสากลอย่างเต็มที่”
รัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับจอร์เจียช่วงสั้นๆ ในฤดูร้อนปี 2008 เมื่อ ทบิลิซิ ส่งทหารเข้าไปยังเซาท์ออสเซเตีย หลังจากมันถูกฝ่ายกบฏที่สนับสนุนโดยมอสโกเข้าควบคุม จากนั้นมอสโกก็ส่งกองกำลังทัพใหญ่โจมตีทางอากาศต่อทหารจอร์เจียในเซาท์ออสเซเตีย เท่านั้นยังไม่พอยังไล่ถล่มเลยเข้าไปในดินแดนของจอร์เจีย ไปจนถึงเมืองหลวงด้วย
ในส่วนของความตึงเครียดล่าสุดระหว่างยูเครนและรัสเซีย มีรายงานว่ามอสโกส่งกำลังทหารหลายหมื่นนายเข้าประชิดชายแดนของยูเครนเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา “ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อว่าสหรัฐฯ คือผู้บงการการแสดงนี้”
สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียไม่ยอมทำตามข้อตกลงคลี่คลายวิกฤตยูเครน ที่เห็นพ้องกันในเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่นายลาฟรอฟก็ตอบโต้ว่าเป็นเคียฟเองที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว
