xs
xsm
sm
md
lg

ช็อก! พบข้อมูลสมาชิก “หน่วยรบพิเศษ” มะกัน ฆ่าตัวตายอื้อ ยอดหน่วย “ซีล-เรนเจอร์” ปลิดชีพตัวเองพุ่งสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อัตราการฆ่าตัวตายในหมู่กำลังพลหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐฯ ทำสถิติพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ หลังพบข้อมูลสมาชิกหน่วย “ซีล” และหน่วย “เรนเจอร์” ปลิดชีพตัวเองเป็นจำนวนมาก

รายงานข่าวในวันอาทิตย์ (20) ซึ่งอ้างพลเรือเอก วิลเลียม แม็คเรเวน ผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯระบุว่าอัตราการฆ่าตัวตายของกำลังพลใน “หน่วยรบพิเศษ” ของกองทัพสหรัฐฯในขณะนี้ ทำสถิติพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะกำลังพลจากหน่วยซีลของกองทัพเรือ และหน่วยเรนเจอร์แห่งกองทัพบก

พล.ร.อ.แม็คเรเวน เปิดเผยข้อมูลอันน่าตกใจดังกล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมของกองทัพสหรัฐฯที่เมืองแทมปา มลรัฐฟลอริดา โดยระบุ ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเป็นอย่างยิ่งที่กำลังพลของสหรัฐฯที่ผ่านการทำศึกในสมรภูมิต่างๆ ทั่วโลกมาอย่างโชกโชน และถือเป็น “วีรบุรุษของชาติ” กลับต้องจบชีวิตด้วย “มือของพวกเขาเอง”

แม้ พล.ร.อ.แม็คเรเวน จะไม่เปิดเผยตัวเลขกำลังพลในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของกองทัพสหรัฐฯ ที่จบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย แต่แหล่งข่าวในกองทัพสหรัฐฯได้เปิดเผยต่อเว็บไซต์ข่าวชื่อดังอย่าง “นิวส์แม็กซ์” โดยระบุว่า ในปี 2013 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีสมาชิกหน่วยรบพิเศษต่างๆ ของสหรัฐฯฆ่าตัวตายสูงถึง 284 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการฆ่าตัวตายของสมาชิกหน่วย “ซีล” และหน่วย “เรนเจอร์” มากที่สุด และมีแนวโน้มที่การฆ่าตัวตายในหมู่กำลังรบชั้นยอดของสหรัฐฯอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ “เพนตากอน” เคยดำเนินการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายในหมู่กำลังพลกองทัพสหรัฐฯ และพบว่า อัตราการฆ่าตัวตายในหมู่กำลังพลที่เคยประจำการในสมรภูมิอิรักและอัฟกานิสถาน สูงกว่าการฆ่าตัวตายของกำลังพลที่ถูกส่งไปประจำการ ณ สมรภูมิแห่งอื่นๆ

โดยผลการศึกษาของเพนตากอนพบว่า ในจำนวนกำลังพลของกองทัพสหรัฐฯทุกๆ 100,000 คนนั้น อัตราการฆ่าตัวตายของทหารอเมริกันในอิรักและอัฟกานิสถานมีสูงกว่า 30 คน ขณะที่กำลังพลในสมรภูมิอื่นๆ มีอัตราการฆ่าตัวตายไม่ถึง 20 ในทุก 100,000 ราย นอกจากนั้น ยังพบข้อมูลว่า กำลังพลจาก “กองทัพบก” สหรัฐฯมีสถิติการฆ่าตัวตายสูงกว่าเหล่าทัพอื่นๆ

ทั้งนี้ พล.ร.อ.แม็คเรเวน เผยว่า ขณะนี้ทางกองทัพสหรัฐฯกำลังศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อลดทอนความเครียดให้กับกำลังพลของตน โดยเฉพาะกำลังพลในหน่วยรบพิเศษที่มีจำนวนกว่า 59,000 คน และถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายอยู่ใน 84 ประเทศทั่วโลกในขณะนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น