เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลรัสเซียเผย เศรษฐกิจของ “ไครเมีย” จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับแดนหมีขาว คาดอาจขยายตัวได้ราว 6-7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จนถึงปี 2017
บอริส ติตอฟ ผู้ตรวจการณ์แผ่นดินด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย เผยในวันพุธ (16) โดยระบุ ว่าเศรษฐกิจของไครเมียจะขยายตัวได้ราว 6-7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เรื่อยไปจนถึงปี 2017 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจไครเมีย หลังถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซียนั้นจะมาจากภาคการท่องเที่ยว การเกษตร และภาคการผลิต
รายงานฉบับล่าสุดของผู้ตรวจการณ์แผ่นดินด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย ที่เตรียมนำเสนอต่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินระบุว่า ไครเมียมีศักยภาพเพียงพอในการแข่งขันเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว ไม่ต่างจากตุรกีและอียิปต์ แต่ทั้งนี้ไครเมียจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับเป้าหมายดังกล่าว และคาดว่านักลงทุนจากรัสเซียจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของไครเมีย
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่า รัฐบาลรัสเซียเตรียมลงทุนในไครเมียซึ่งเป็นบ้านของประชากรราว 2 ล้านคน คิดเป็นวงเงินกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161,150 ล้านบาท) ภายใน 3-5 ปีข้างหน้าซึ่งรวมถึงการพัฒนาแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ 2 แห่งของไครเมียที่ตั้งอยู่ในทะเลดำ และที่เมืองรอซโดลเน