เอเจนซีส์ - อียิปต์ได้เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมรูปปั้นฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 (หรือ อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน) ที่ทำมาจากหินควอร์ตไซต์สีแดงขนาดมหึมาขนาดใหญ่จำนวน2ชิ้น เพิ่มเติมจากที่เดิมมี 2 ชิ้นซึ่งสร้างชื่อให้กับวิหารลักซอร์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทีมนักโบราณคดีผู้ค้นพบได้เปิดเผยเมื่อวานนี้(23)
รูปปั้นฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3ทั้ง2ชิ้นซึ่งทำมาจากหินหินควอร์ตไซต์สีแดงได้ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดียุโรปและอียิปต์ที่ได้เปิดเผยว่า พวกเขาค้นพบรูปปั้นคู่นี้จากวิหารฝังพระศพบนเวสต์แบงก์ของลุ่มแม่น้ำไนล์
โดยพบว่าหนึ่งในรูปปั้นฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 ที่ถูกค้นพบใหม่นี้มีขนาดความสูงราว 11.5 ม. ที่มีฐานสูงราว 1.5 ม และยาว3.6 ม. โดยมีน้ำหนักรวม 250 ตัน และรูปปั้นอยู่ลักษณะในท่านั่ง มือวางบนเข่า แต่เป็นที่น่าเสียดายที่พบว่ารูปปั้นที่พบใหม่นี้ไม่สมบูรณ์ที่ขาดส่วนมงกุฎไปไม่เหมือนอีก2ชิ้นที่พบก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตามวิหารลักซอร์แห่งนี้นั้นเดิมมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอยู่แล้วด้วยอนุสาวรีย์แห่งเมมนอนที่มีอายุถึง 3,400 ปี ซึ่งมีความสูง 13.5 ม รวมถึงมงกฎ และมีน้ำหนัก 450 ตัน
“ ก่อนหน้านี้คนทั้งโลกยังเข้าใจเพียงว่ามีอนุสาวรีย์แห่งเมมนอนแค่ 2 แห่ง แต่ทว่านั้บตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทั้งโลกจะได้ตระหนักว่ามีอนุสาวรีย์แห่งเมมนอนอยู่ถึง 4แห่งด้วยกัน ” Hourig Sourouzian หัวหน้าทีมนักโบราณคดีทีมโปรเจ็กต์อนุรักษ์วิหารอาเมนโฮเตปกล่าว
ซึ่งรูปปั้นของฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 จำนวนทั้ง2ชิ้นก่อนหน้าที่ค้นพบและโด่งดังไปทั่วโลกนั้นเป็นรูปปั้นฟาโรห์ในท่านั่งหันหน้าเข้าหากัน และรูปปั้น2ชิ้นที่เพิ่งค้นพบล่าสุดนั้นได้รับความเสียหายอย่างมากเนื่องมาจากภัยธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว" Sourouzian กล่าว
“รูปปั้นถูกพบในสภาพเป็นชิ้นๆในสถานที่ค้นพบ ซึ่งคาดว่าได้รับความเสียหายเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และภายหลังถูกน้ำชลประทานท่วม รวมไปถึง เกลือกัดกร่อน และการถูกทำให้เสียหายด้วยมือมนุษย์ที่ชอบทำลายของสาธารณะ” Sourouzian กล่าวต่อและเสริมว่า “วิหารแห่งนี้ที่สง่างามยังมีอีกหลายสิ่งมากมายเพียงพอให้เราศึกษาและอนุรักษ์”
สำหรับฟาโรห์อาเมนโฮเตป ที่ 3 ถือเป็นพระอัยกาแห่งฟาโรห์ตุตันคาเมนผู้เลื่องชือ ซึ่งปกครองอียิปต์ในช่วงก่อนคริสต์กาลที่ 14 ในช่วงรุ่งเรืองสูงสุดของอาณาจักรอียิปต์ทั้งด้านการเมืองและวัฒนธรรม