เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลีประกาศจะ “เปลี่ยนแปลงประเทศขนานใหญ่” ในทันที พร้อมชี้แจงแผนปฏิรูปของรัฐบาล ก่อนที่จะได้รับมติไว้วางใจจากวุฒิสภาไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25)
นายกรัฐมนตรีผู้อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แดนมะกะโรนีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วยถ้อยคำขึงขัง โดยเสนอแผนปฏิรูปการเก็บภาษี, ตลาดงาน และการบริหารรัฐกิจ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอิตาลีให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
“หากเราแพ้อีกในคราวนี้ ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว จะไม่มีใครแก้ตัวได้อีก” นายกรัฐมนตรีวัย 39 ปี แถลงท่ามกลางเสียงเย้ยหยันและปรามาสจากนักการเมืองฝ่ายค้าน
“อิตาลีในวันนี้ต้องมีความเป็นไปได้ และจะเป็นอิตาลีที่มีการเปลี่ยนแปลงจากฐานราก” เรนซี ระบุ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องปฏิรูป “ประเทศที่ถูกสนิมจับเกรอะกรังเพราะความกระวนกระวาย”
เรนซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการโค่นอดีตนายกรัฐมนตรี เอ็นริโก เล็ตตา ซึ่งล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ได้รับมติไว้วางใจจากวุฒิสภาวันนี้ (25) ด้วยคะแนน 169 ต่อ 139 เสียง
ในฐานะผู้นำคนใหม่ เรนซี ให้สัญญาว่าจะทบทวนการจ่ายสวัสดิการรัฐสำหรับคนตกงาน, จัดตั้งกองทุนอุดหนุนธุรกิจรายย่อย และปฏิรูประบบตุลาการอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังตั้งเป้าจะลดภาระภาษีลงให้ได้ถึงเลข 2 หลักภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน และจะชำระหนี้สินของฝ่ายบริหารด้วย
ในเบื้องต้นปฏิกิริยาสนองตอบจากนักลงทุนถือว่าค่อนข้างดี โดยตลาดหุ้นอิตาลี FTSE ปิดบวก 0.48% ภายหลังจากที่ เรนซี กล่าวสุนทรพจน์จบ
ด้านสมาคมธุรกิจรายย่อย Confartgiano ยังแสดงความกังขาว่านายกรัฐมนตรีจะนำเงินทุนจากที่ไหนมาปฏิรูป โดย จอร์จิโอ แมร์เลตติ ประธานสมาคม ชี้ว่า “จากการคำนวณคร่าวๆ คาดว่ารัฐบาลจะต้องหาเงินให้ได้ถึง 100,000 ล้านยูโรในทันที”
เรนซี ซึ่งเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองฟลอเรนซ์มาก่อน เป็นที่คาดหมายอยู่แล้วว่าจะผ่านมติไว้วางใจจากวุฒิสภา เพราะมีฐานเสียงจากพรรคประชาธิปไตยฝ่ายซ้าย (พีดี) ของเขา และแนวร่วมอย่างพวกสายกลางและพรรคกลางขวาใหม่ (เอ็นซีดี) สนับสนุนอยู่ ทว่า เรนซี ก็จะต้องผ่านการโหวตไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎรอีกขั้นหนึ่งในช่วงเย็นวันนี้ (25)
นักวิเคราะห์การเมืองต่างจับตาว่า เรนซี จะได้เสียงสนับสนุนจากสภามากน้อยเพียงใด เพราะจะเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่า รัฐบาลชุดใหม่จะอยู่รอดครบเทอมถึงปี 2018 หรืออิตาลีจะต้องหวนกลับมาสู่กระบวนการเลือกตั้งอีกครั้ง
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ต่อโทรศัพท์คุยกับ เรนซี เมื่อวานนี้ (25) และผู้นำทั้งสองจะได้พบกันอย่างเป็นทางการที่กรุงโรมในเดือนมีนาคม
ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาวระบุว่า โอบามา สนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงานของ เรนซี และหวังว่าทั้ง 2 ชาติจะยังคงความเป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดทั้งในด้านสงครามอัฟกานิสถาน, ลิเบีย, การเจรจาหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนข้ามแอตแลนติก (TTIP) ตลอดจนความร่วมมือด้านความมั่นคงและกลาโหม