นายกฯ แดนลอดช่อง “กระตุ้น” พ่อแม่วัยหนุ่มสาวให้เร่งเดินหน้า “ผลิตลูก” รับปีม้า

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์วันนี้ (29 ม.ค.) ออกมากระตุ้นให้บรรดาคู่รักหนุ่มสาว “ห้อตะบึง” ผลิตทายาทในปีมะเมีย เพื่อเพิ่มอัตราประชากรที่กำลังลดน้อยถอยลง

ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ลีบอกว่านครรัฐอันมั่งคั่งแห่งนี้กำลังต้องการ “เด็กจำนวนมากพอที่จะก่อร่างเป็นคนรุ่นต่อไปได้” ในช่วงที่กำลังมีความวิตกกังวลกันในเรื่องผู้อพยพที่ไหลบ่าเข้ามาในสิงคโปร์

“โชคไม่ดีเลย ที่แม้เราจะพยายามส่งเสริมการแต่งงานและความเป็นพ่อคนแม่คน แต่อัตราการเกิดของเราก็ยังคงต่ำเกินไป” ลี ซึ่งบัดนี้เป็นพ่อลูกสี่กล่าว

ทั้งนี้ ลีชี้ว่าในปัจจุบันอัตราการเกิดของเด็กในสิงคโปร์ต่อแม่หนึ่งคนอยู่ที่ 1.19 คน ซึ่งลดลงจากตัวเลขในปี 2012 ที่ 1.29 โดยอัตราชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนซึ่งคิดเป็นร้อยละ 74 ของประชากรในประเทศได้ลดต่ำลงไปอยู่ที่ 1.06

เขาเน้นย้ำว่า “เราต้องพยายามทำให้ดีกว่านี้ ผมหวังว่าจะเห็นความก้าวหน้าในปีมะเมีย”

นอกจากนี้ ผู้นำวัย 61 ปีผู้นี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า วันวาเลนไทน์ของปีนี้ตรงกับวันที่ 15 ในปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นวันมงคลที่เรียกว่าวัน “หง่วนเซียว” หรือเทศกาลโคมไฟ

“คู่รักเกือบ 300 คู่จดทะเบียนสมรสกันในวันอันเป็นมงคลนี้ เราจึงควรจะเริ่มเดินหน้าได้แล้ว” เขากล่าว

“ผมอยากได้ยินเสียงลั่นระฆังวิวาห์ และได้ยินเสียงเด็กทารกร้องโยเยตลอดทั้งปี”

แม้ว่าจะมีนโยบายจำพวก “โบนัสทารกน้อย” ออกมามากมายเพื่อกระตุ้นให้คู่สมรสมีลูก แต่สิงคโปร์ก็ยังไม่สามารถฉุดอัตราเจริญพันธุ์ให้ขึ้นไปถึง 2.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะช่วยรักษาประชากรพื้นเมืองในสิงคโปร์ไว้ได้

อัตราการเกิดที่ต่ำได้บีบให้รัฐบาลสิงคโปร์ต้องหันมาพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยในตอนนี้มีชาวต่างชาติอยู่ในสิงคโปร์เป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด 5.4 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม การทะลักเข้ามาของแรงงานต่างชาติได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วง และกระตุ้นให้รัฐบาลต้องเปลี่ยนมาใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อจำกัดปริมาณผู้อพยพที่ไหลบ่าเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา