รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ ยืนยันในวันอังคาร (28) ระบุ ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่า สายลับของรัสเซียให้ความช่วยเหลือต่อเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ในการขโมยข้อมูลลับสุดยอดของสหรัฐฯ
สมาชิกวุฒิสภาหญิงแกร่งวัย 80 ปี ของพรรคเดโมแครตจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2009 เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ “เอ็มเอสเอ็นบีซี” โดยยืนยันว่า จนถึงขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่า เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานข่าวกรองของรัฐบาลมอสโกในการขโมยความลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในระหว่างที่เขาร่วมงานกับเอ็นเอสเอ
“การที่รัสเซียเปิดรับสโนว์เดนเข้าไปลี้ภัยในประเทศ และให้ความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ รวมถึงดูแลความปลอดภัยให้กับเขา มิได้หมายความว่าสโนว์เดนเคยได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียมาก่อนในการขโมยข้อมูลลับสุดยอดของสหรัฐฯ เราไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆ ว่าเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้น” ไฟน์สไตน์กล่าว
ท่าทีล่าสุดของ ส.ว.หญิงไฟน์สไตน์ สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับการออกโรงแฉเมื่อช่วงต้นเดือนของ ไมค์ รอเจอร์ส ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (House of Representative Intelligence Committee) จากพรรครีพับลิกัน ที่ระบุว่าหน่วยสืบราชการลับรัสเซีย (เอฟเอสบี) สมคบคิดกับสโนว์เดนมานานแล้วตั้งแต่ก่อนที่สโนว์เดนจะหลบหนีไปยังฮ่องกง และในที่สุดก็เดินทางเข้าไปลี้ภัยในรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว
ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังอย่างนิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างผลการสืบสวนภายในของเอ็นเอสเอ รวมถึงสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ล่าสุดที่พบหลักฐานว่า สโนว์เดนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นๆ ในการขโมยข้อมูลลับของสหรัฐฯ แต่ทั้งเอ็นเอสเอและเอฟบีไอยังมิอาจสรุปได้ว่าผู้ที่ให้ความช่วยเหลือสโนว์เดนกระทำการดังกล่าวเป็นพวกสายลับรัสเซียหรือไม่
ขณะเดียวกัน เอริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยล่าสุดผ่านเอ็มเอสเอ็นบีซี โดยยอมรับว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดไฟเขียวอนุญาตให้สโนว์เดนสามารถเดินทางกลับมายังสหรัฐฯ ได้ ภายใต้มาตรการคุ้มกันจากการถูกจับกุมดำเนินคดี
แม้ขณะนี้จะมีความเป็นไปได้น้อยมากที่สโนว์เดน วัย 30 ปีจะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เห็นได้จากการที่เขาออกมาเปิดเผยต่อสื่อเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมสหรัฐฯ และเกรงว่าตนเองจะตกอยู่ในอันตราย