อียิปต์ติดยศ ‘จอมพล’ ให้แก่ ผบ.ทบ.‘ซิซี’ กองทัพก็ไฟขียวลงสมัครประธานาธิบดี

เอเจนซีส์ - สภาทหารสูงสุดอียิปต์เปิดไฟเขียว “อับเดล ฟาตอห์ อัล-ซิซี” ผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหม ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งจอมพลสดๆ ร้อนๆ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่คาดว่า จะมีขึ้นภายในเดือนเมษายน ซึ่งเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า บิ๊กทหารผู้นี้จะกวาดชัยชนะเบ็ดเสร็จ

สภาทหารสูงสุดของอียิปต์แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อซิซีถือเป็นข้อเรียกร้องที่จำเป็นต้องใส่ใจ ส่วนซิซีแถลงขอบคุณผู้นำกองทัพที่อนุญาตให้ตน “มีสิทธิ์ตอบสนองเสียงเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่”

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการแถลงของกองทัพ ประธานาธิบดีรักษาการ แอดลีย์ แมนซูร์ ที่ซิซีเป็นผู้แต่งตั้ง ได้ประกาศเลื่อนยศซิซีจากพลเอกเป็นจอมพล

ทั้งนี้ หากซิซีลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี มีแนวโน้มว่า เขาจะชนะขาดลอยเนื่องจากกำลังเป็นที่รักใคร่ถึงขั้นคลั่งไคล้ของคนอียิปต์จำนวนมากขณะนี้ ประกอบกับไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ นอกจากนั้นเขาได้รับการสนับสนุนเกือบเด็ดขาดจากสื่อ อีกทั้งยังมีการข่มขู่คุกคามผู้วิพากษ์วิจารณ์นายทหารใหญ่ผู้นี้ด้วย

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องในวาระครบรอบ 3 ปีของการลุกฮือขึ้นโค่นล้มประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค จอมเผด็จการซึ่งมาจากฝ่ายทหาร ได้มีประชาชนจำนวนมากชุมนุมเรียกร้องให้ซิซีลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ แต่ขณะเดียวกัน กองกำลังความมั่นคงก็ออกปราบกลุ่มผู้ประท้วงอิสลามิสต์ที่เรียกร้องให้คืนตำแหน่งประธานาธิบดีให้โมฮัมเหม็ด มอร์ซี จนเป็นเหตุให้มีการปะทะและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 คน บรรยากาศเช่นนี้ตอกย้ำว่า อียิปต์ยังคงแตกแยกอย่างรุนแรง หลังจากมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอิสลามิสต์ที่ถูกสังหารระหว่างการปะทะบนท้องถนน และอีกหลายพันคนถูกจำคุก นับแต่มอร์ซีถูกโค่นล้ม

มอร์ซีนั้นถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของอียิปต์ที่มาจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยทันทีที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2012 เขาจัดการปลด โมฮัมเหม็ด ฮุสเซน ตันตาวี ผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหมสมัยมูบารัค อีกทั้งขึ้นเป็นผู้ปกครองประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านหลังมูบารัคถูกโค่นล้มด้วย ทั้งนี้มอร์ซีได้เลือกซิซีขึ้นมาแทนตันตาวี

แต่เพียงปีเดียว ประธานาธิบดีคนแรกจากภาคพลเรือนก็ถูกประชาชนจำนวนมากต่อต้าน ภายใต้ข้อกล่าวหาที่ว่า กลุ่มภราดรภาพมุสลิมของเขาพยายามผูกขาดอำนาจและนำพาอียิปต์ไปสู่แนวทางนิยมอิสลามสุดโต่ง และแล้วกองทัพภายใต้ซิซีก็ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนเสียงเรียกร้องของมวลชนและปลดมอร์ซีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมปีที่แล้ว

พวกเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสเปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ซิซีจะลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และหากชนะ เขาจะสร้างความสมานฉันท์ ฟื้นความมั่นคงและสถานะของอียิปต์บนเวทีโลก

อย่างไรก็ดี ชัยชนะของซิซีจะเป็นการนำอียิปต์กลับสู่ธรรมเนียมปฏิบัติเดิมคือ ประธานาธิบดีที่มาจากกองทัพ

ทางด้าน เกมาล อับเดล กาวัด โซลตาน จากมหาวิทยาลัยอเมริกาในไคโ รยังเชื่อว่า หากซิซีชนะ เขาจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่คาดว่าจะมีขึ้นภายในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากซิซีน่าจะจัดตั้งพรรคการเมืองที่ดึงดูดผู้สมัครชั้นนำมารวมกัน

เวลานี้วอชิงตันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปจากแผนการอนาคตของซิซี กระนั้น เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันจันทร์ ย้ำความสำคัญในการรักษาดุลอำนาจระหว่างกองทัพกับรัฐบาลอียิปต์

วันเดียวกัน เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า อเมริกายังไม่มีแผนยกเลิกการระงับเงินช่วยเหลือ 1,500 ล้านดอลลลาร์ให้แก่อียิปต์ ที่เริ่มต้นขึ้นนับจากการปลดมอร์ซี

การเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ยังจะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความรุนแรงจากกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ที่ลุกลามขยายตัวหลังการปลดมอร์ซี โดยมีการลอบโจมตีในคาบสมุทรไซนายหนักมือขึ้น และล่าสุดเริ่มขยายมายังกรุงไคโรและเมืองอื่นๆ เป้าหมายหลักคือตำรวจและทหาร

รัฐบาลรักษาการนั้นได้ประกาศให้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นขบวนการก่อการร้าย และกล่าวหาว่า กลุ่มนี้อยู่เบื้องหลังความรุนแรงเหล่านี้ อย่างไรก็ดี กลุ่มภราดรภาพมุสลิมตอบโต้ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเพียงข้ออ้างในการกวาดล้างสมาชิกกลุ่มเท่านั้น พร้อมเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนพวกเขาเดินหน้าประท้วงต่อไป