“โคดอร์คอฟสกี” คู่ปรับการเมือง “ปูติน” พบหน้าครอบครัวที่เยอรมนี “ปฏิเสธลงเล่นการเมืองรัสเซีย-ไม่ทวง บ.น้ำมันคืน”

เอเจนซีส์ - สื่ออัลญะซีเราะห์รายงานว่า มิคาอิล โบริสโซวิค โคดอร์คอฟสกี้ มหาเศรษฐีน้ำมันและเป็นคู่ปรับทางการเมืองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งได้ถูกจำคุกมาเป็นเวลานานถึง 10 ปี ก่อนที่จะได้รับการอภัยโทษได้เดินทางมาถึงเยอรมนีเพื่อพบกับครอบครัว และย้ำจุดยืนไม่เล่นการเมือง และไม่ทวงบริษัทน้ำมัน “ยูคอส” กลับคืน

มิคาอิล โบริสโซวิค โคดอร์คอฟสกี ที่ถูกจำคุกในรัสเซียนานถึง 10 ปี ได้ใช้เวลาทั้งวันในฐานะของคนที่มีเสรีภาพอย่างสมบูรณ์อยู่ร่วมกับลูกชาย พาเวล โคดอร์คอฟสกี โดยโคดอร์คอฟสกีพบกับบุตรชาย และพ่อแม่ของเขาในเช้าวันเสาร์ (21) ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมี

นอกจากนี้ มหาเศรษฐีน้ำมันผู้นี้มีตารางที่จะต้องปรากฏตัวในวันนี้ (22) ที่งานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Checkpoint Charlie ที่ตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงกำแพงเมืองเบอร์ลิน

การปรากฏตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาถูกตัดสินจำคุกในข้อหาเลี่ยงภาษี การยักยอกเงิน และขโมยน้ำมันในปี 2003 ซึ่งในขณะนั้นโคดอร์คอฟสกีได้สร้างฐานเสียงทางการเมืองขึ้นมาเพื่อท้าทายอำนาจประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และการจำคุกของเขาสิ้นสุดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ยื่นขออภัยโทษต่อปูติน ซึ่งปูตินให้อภัยโทษโคดอร์คอฟสกี วัย 50 ปี จากเหตุผลมนุษยธรรมมาประกอบการพิจารณาเพราะมารดาของโคดอร์คอฟสกีนั้นกำลังป่วยหนัก

ในขณะที่ ดิมิทรี เปสคอฟ  โฆษกของปูตินได้กล่าวกับเอเอฟพีเมื่อวานนี้ (21) ว่า โคดอร์คอฟสกีมีเสรีภาพที่จะเดินทางกลับรัสเซียเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ แต่โคดอร์คอฟสกีที่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิตยสารรัสเซียและได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ฉบับวันนี้ (22) ว่า สถานการณ์มันเปลี่ยนไป “ทางการรัสเซียสามารถพูดได้โดยสนิทใจว่าไมได้ขับผมออกนอกประเทศ แต่ในความเป็นจริงรู้กันอย่างชัดเจนว่า พวกเขาแนะนำว่าผมควรเดินทางออกนอกรัสเซีย”

และนอกจากนี้ โคดอร์คอฟสกียังปฏิเสธถึงอนาคตที่จะกลับลงสู่สนามการเมืองรัสเซียอีกครั้ง และจะไม่ต่อสู้เพื่อเอาบริษัทน้ำมัน “ยูคอส” กลับคืนมา ซึ่งในขณะนี้ได้อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทน้ำมัน Rosneft ที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ

และโคดอร์คอฟสกียังย้ำว่า ไม่มีเงื่อนไขในการให้อภัยโทษเขา ซึ่งโคดอร์คอฟสกีได้เขียนจดหมายไปหาปูตินพร้อมย้ำในเจตนาว่า เขาไม่มีความตั้งใจในการกลับเข้าสู่แวดวงการเมืองรัสเซีย และไม่มีความประสงค์ที่จะเอาบริษัทน้ำมัน ยูคอส กลับคืน