เอพี/เอเจนซีส์ - “โรเบิร์ต เลวินสัน” อดีตเจ้าหน้าที่ FBI ผู้ซึ่งหายตัวไปในปี 2007 ในอิหร่าน ที่เชื่อกันว่าเขาถูกกักขังไว้อย่างลับๆ จากการปรากฏตัวของเลวินสันในวิดีโอที่ถูกส่งมายังครอบครัวในเดือนธันนวาคม 2010 และในปัจจุบันนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยสื่อเอพีเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (12) ว่า มีความเป็นไปได้ว่าเลวินสันจะถูก CIA ส่งไปปฏิบัติ “ภารกิจลับที่ผิดกฎหมาย” ในขณะที่ทางหน่วยงานได้ทำการปิดปากครอบครัวของเลวินสันที่จะนำเรื่องขึ้นศาลด้วยจำนวนเงิน 2.5 ล้านดอลลาร์
“โรเบิร์ต เลวินสัน” วัย 65 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ FBI ที่เกษียณได้หายตัวไปอย่างลึกลับในขณะที่เขาเดินทางไปยังเกาะคิชของอิหร่านในเดือนมีนาคม 2007 ซึ่งทางเอพีได้รายงานเมื่อวานนี้ (12) ว่า สาเหตุการหายตัวของเขาขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ที่อ้างว่า “เลวินสันเดินทางไปอิหร่านเป็นการส่วนตัว”
โดยเดอะการ์เดียนได้รายงานถึงรายงานเชิงเจาะลึกของเอพีซึ่งกินเวลายาวนานถึง 1ปีในคดีนี้ว่า เลวินสันที่ได้หายตัวไปนั้นมีส่วนเกี่ยวพันกับภารกิจพิเศษ ซึ่งเริ่มโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA 3 คนที่ไม่ได้มีอำนาจสามารถที่จะอนุญาตให้ดำเนินปฏิบัติการได้ถูกตามกฎหมายสหรัฐฯ โดยปรากฏว่าเลวินสันได้ทำงานให้กับ CIA ในอิหร่านเป็นเวลานานถึง 8 เดือนก่อนที่เขาจะหายตัวไปปราศจากการติดต่อ
ในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เลวินสันที่เป็นพ่อของลูกทั้ง 7 คนจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA เชื่อว่าเลวินสันอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลสหรัฐฯยังคงยืนยันและปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่า เลวินสันไม่ได้ถูกหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯส่งไปยังอิหร่าน ด้วยที่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ทางทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ว่า “เลวินสัน” เป็นพลเมืองสหรัฐฯที่ถูกจับกุมตัวในต่างแดนนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีการนำตัวเขากลับบ้านและพัฒนาความสัมพันธ์กับอิหร่าน
โดยโฆษกทำเนียบขาว เจย์ คาร์นีย์ ได้ออกแถลงว่า เลวินสันได้สูญหายใน “การเดินทางส่วนตัว” แต่ทว่าในรายงานของเอพียืนยันว่า ทางหน่วยงาน CIA ได้จ่ายเงินจำนวน 2.5 ล้านดอลลาร์ให้กับทางครอบครัวของเลวินสัน ด้วยไม่ต้องการให้นำเรื่องขึ้นสู่ศาล และจะทำให้ต้องเปิดเผยถึงข้อตกลงลับระหว่างเลวินสัน และ CIA ออกมา
ซึ่งสื่ออังกฤษ เมลออนไลน์รายงานว่า ในช่วง 8 เดือนหลังจากการหายตัวไปของเลวินสัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA ได้ออกมาปฏิเสธถึงความเกี่ยวข้องระหว่างเลวินสันและ CIA
และในตอนที่เบาะแสการตามตัวเลวินสันเริ่มน้อยลง หลังจากที่เขาได้ปรากฏตัวเป็นครั้งสุดท้ายในวิดีโอที่ถูกส่งมายังครอบครัวเมื่อเดือนธันวาคม 2010 ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA ยอมรับว่า เลวินสันนั้นอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว โดยทางหน่วยงาน FBIของสหรัฐฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และที่อิหร่าน แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งอดีตประธานาธิบดีอิหร่าน 2 คน ที่รวมถึงประธานาธิบดีอิหร่านคนปัจจุบัน ฮัสซัน โรว์ฮานี ได้ออกมาปฏิเสธถึงความเกี่ยวพันที่อิหร่านได้ลักพาตัวอดีตเจ้าหน้าที่ FBIผู้นี้ไป หรือรับรู้ว่าเลวินสันนั้นอยู่ที่ใด
โดยทางเอพีได้เปิดเผยต่อว่า เลวินสันนั้นได้ทำงานการหาข่าวเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในอิหร่านและส่งรายงานถึงแอน จาบลอนสกี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการวิเคราะห์ข้อมูลใน CIA ซึ่งจากการสอบสวนของทางหน่วยงานทำให้ทราบว่า จาบลอนสกีไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาของเอทราบถึงการที่เธอได้ว่าจ้างให้เลวินสันไปหาข่าวในอิหร่าน
และภายหลังการสอบสวนภายในของ CIA จาบลอนสกีจำใจต้องลาออก แต่กระนั้นเธอยังไม่เคยเปิดปากให้ข้อมูลเรื่องเลวินสันที่ไปทำงานให้เธอแม้แต่น้อย อ้างจากเอพี โดยเธอปฏิเสธในการรับรู้ถึงการที่เลวินสันได้เดินทางไปยังอิหร่านเพื่อหน่วยงาน CIAจากอีเมลโต้ตอบหลายฉบับระหว่างคนทั้งคู่
โดยคนรู้จักของจาบลอนสกีที่ขณะนี้เป็นครูสอนโยคะกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าขันที่จะกล่าวหาว่าจาบลอนสกีส่งเลวินสันซึ่งเป็นเพื่อนคบหากันมาอย่างยาวนานส่งเขาไปทำงานในที่อันตราย แต่จากการสอบสวนของ CIA ทำให้รู้ว่า จาบลอนสกีนั้นได้ติดนิสัยในการหาข่าวความมั่นคงมาจากเลวินสันและทำให้เธอต้องปกปิดการปฏิบัติภารกิจของเลวินสันต่อผู้บังคับบัญชาของเธอ
และหลังจากที่สภาคองเกรสได้รับรู้ถึงเงื่อนงำการหาตัวไปของเลวินสันแล้ว เป็นผลทำให้เจ้าหน้าระดับสูงในการวิเคราะห์ข้อมูล 3 คนต้องลาออกจากหน่วยงาน รวมไปถึงจาบลอนสกี และเจ้าหน้าที่ CIA อีก 7 คนนั้นถูกลงโทษทางวินัย
โดยเอพีได้ยืนยันความเกี่ยวพันระหว่างเลวินสัน และ CIA เป็นครั้งแรกในปี 2010 และยังคงรายงานถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเอพีได้ตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯถึง 3 ครั้งในการยังคงไม่เปิดเผยเรื่องเลวินสันต่อสาธารณะเป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐฯได้สัญญาที่จะนำตัวอดีตเจ้าหน้าที่ FBI ผู้นี้กลับบ้าน
แต่การที่เอพีได้ตัดสินใจนำเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (12) เนื่องจากเลวินสันหายไปนานเกือบ 7 ปีแล้วในขณะที่คำสัญญาของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะนำตัวเขากลับบ้านนั้นไม่เกิดอะไรขึ้น สหรัฐฯไม่ได้เห็นถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าเลวินสันนั้นย้งมีชีวิตอยู่เป็นเวลานานถึง 3 ปี และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ไม่เปิดเผยชื่อได้กล่าวว่า ผู้ที่จับตัวเขาไปเกือบจะแน่ใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างเลวินสันและหน่วยงาน CIA
และนอกจากนี้เอพียังได้เปิดเผยว่า ในปี 2006 ทิม แซมป์สัน หัวหน้าแผนกอาชญากรรมทางการเงิน ได้ทำสัญญาว่าจ้างมูลค่า 85,000 ดอลลาร์ กับเลวินสันให้ทำงานกับ CIA ในทีมวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นปกติของหน่วยงานที่สัญญาการจ้างงานประเภทนี้จะไม่ถูกเปิดเผย แต่มันก็ไม่ใช่ที่ต้องปิดเป็นความลับสุดยอด โดยเขาต้องเขียนรายงานส่ง CIA ในการเดินทางไปยังอิหร่านจากความเชี่ยวชาญที่เขามีในการหาข้อมูลจากการซื้อขายยาเสพติด เงินสกปรก และการฟอกเงิน
โดยหลักการแล้วหน่วยงาน CIA จะแบ่งเป็น 1 หน่วยปฏิบัติการ 2 หน่วยวิเคราะห์ข้อมูล โดยหน่วยปฏิบัติการจะทำหน้าที่หาข่าวความมั่นคงและหาสายลับ ส่วนหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลจะรวบรวมข้อมูลและผูกเข้ากันเป็นเรื่องราว ซึ่งความรับผิดชอบจะไม่ทับซ้อนกัน ฝ่ายปฏิบัติการทำการจารกรรม ฝ่ายวิเคราะห์ “ไม่ต้องทำเช่นนั้น”
ในช่วง 8 เดือนที่อยู่ในอิหร่านก่อนที่จะหายตัวไป อดีตเจ้าหน้าที่ CIA เผยว่า การทำงานของเลวินสันนั้นต่างไปจากคนอื่น เขาไม่ได้เขียนรายงานการฟอกเงินเพื่อส่งหน่วยงาน แต่เลวินสันหาข่าวให้หน่วยงาน โดยบางเดือนเลวินสันจะส่งพัสดุราว 20 ชิ้นที่มีรูปถ่าย แผ่นดิสข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ และเอกสารต่างๆ ซึ่งทาง CIA ได้กำชับให้เขาไม่ให้ส่งไปยังที่อยู่ของหน่วยงานรัฐบาล และพบว่าเลวินสันได้ส่งรายงานข้อมูลพวกนี้ไปให้บ้านของจาบลอนสกีในรัฐเวอร์จิเนีย และหากเขาต้องการติดต่อ เลวินสันถูกแนะนำให้ติดต่อผ่านทางอีเมลส่วนตัวของจาบลอนสกีแทน ซึ่งทางจาบลอนสกีได้ออกมาแก้ตัวว่า ที่ต้องทำเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงขั้นตอนที่ยุ่งยากของ CIA แต่ทางเอพีแย้งว่า หากเลวินสันทำหน้าที่แค่วิเคราะห์ข้อมูลปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ให้เขาอีเมลถึง CIA โดยตรง
และเอพียังรายงานว่า คณะผู้ตรวจสอบภายในของ CIA สรุปได้ว่า การจัดการที่แสนจะแปลกประหลาดทั้งหมดนั้น ทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานจับได้ว่า มีการใช้เจ้าหาหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลไปทำงานเป็นสายลับ ซึ่งจาบลอนสกีได้ปฎิเสธในข้อกล่าวหานี้
และนอกจากนี้ทางเอพีได้รายงานว่า โจเซฟ สวีนนี ผู้ช่วยของทนายความประจำหน่วยงาน CIA ในสมัยรัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้บินตรงไปพบกับครอบครัวของเลวินสันที่รัฐฟลอริดา เพื่อขอโทษและมอบเงินให้กับครอบครัวเป็นเงินราว 120,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทาง CIA จะจ่ายให้กับเลวินสันในสัญญาการทำงานอันใหม่หลังจากที่เขากลับมาจากอิหร่าน และทางรัฐบาลสหรัฐฯมอบเงินชดเชยให้กับครอบครัวของเขาอีก 2.5 ล้านดอลลาร์โดยไม่ต้องหักภาษี ซึ่งมีผู้รับรู้ในข้อตกลงนี้น้อยมาก และทุกฝ่ายไม่ปรารถนาให้เรื่องการหายตัวของเลวินสันต้องขึ้นสู่ศาลเพราะไม่ต้องการให้ข้อมูลเปิดเผยสู่สาธารณะ
