เอเจนซีส์ - เกิดเหตุรถไฟโดยสารของอินโดนีเซียชนรถบรรทุกเชื้อเพลิงจนพลิกคว่ำตกรางบริเวณชานกรุงจาการ์ตา ส่งผลให้โบกี้สำหรับผู้หญิงล้วนระเบิดลุกเป็นไฟ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย วันนี้ (9)
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณเที่ยง ขณะที่รถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังใจกลางกรุงจาการ์ตา โดยทั้งรถไฟและรถบรรทุกต่างอยู่ในสภาพพลิกคว่ำและมีเพลิงลุกไหม้ ทำให้เกิดควันสีดำหนาทึบลอยปกคลุมทั่วบริเวณ
พ.ต.อ.ริกวานโต โฆษกตำรวจกรุงจาการ์ตา แถลงว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คร่าชีวิตพนักงานขับรถไฟและผู้โดยสารอย่างน้อย 6 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 20 คน
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุพบเห็นผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 รายถูกนำขึ้นรถพยาบาลไป
อีวา ไชรูนิสา โฆษกบริษัทรถไฟ เกอเรตาอาปี อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รถบรรทุกคันเกิดเหตุนั้นขนก๊าซแอลพีจี ขณะที่ตำรวจระบุว่าเป็นแก๊สโซลีน
ผู้โดยสารนับร้อยอยู่ในอาการตื่นตระหนกและวิ่งหนีออกมาจากขบวนรถไฟซึ่งพลิกคว่ำไป 2 โบกี้ ขณะที่หน่วยกู้ภัยพยายามนำร่างผู้เสียชีวิต 3 ศพออกมาจากใต้ซากขบวนรถไฟ
ผู้บริหารรถไฟประเมินว่า ขณะเกิดเหตุน่าจะมีผู้โดยสารราว 600 คนบนรถไฟ ซึ่งพุ่งชนกับรถบรรทุกเชื้อเพลิงทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา ทว่าส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ทัน
“ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล และเรากำลังประสานงานกับตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่เพื่ออพยพคนที่เหลือ” สุเกนดาร์ มุลยา โฆษกบริษัทรถไฟ เกอเรตาอาปี อินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“โบกี้ที่หนึ่งและโบกี้สุดท้ายสงวนไว้สำหรับผู้โดยสารหญิงเท่านั้น ซึ่งโบกี้แรกนี้เองที่ชนเข้ากับรถบรรทุกอย่างจัง”
มุลยาเผยด้วยว่า รถบรรทุกเชื้อเพลิงคันนี้เป็นของบริษัท เปอร์ตามินา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ขณะเกิดเหตุคนขับพยายามเร่งความเร็วเพื่อข้ามทางรถไฟให้ทัน ทั้งที่เครื่องกั้นถูกลดลงขวางถนนเพื่อให้รถไฟผ่านไปก่อนแล้ว
จุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่เคยเกิดอุบัติเหตุรถไฟ 2 ขบวนชนกันเมื่อปี 1987 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 156 ราย
กรุงจาการ์ตาได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่การจราจรติดขัดอันดับต้นๆของโลก และเนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะไม่เพียงพอ ทำให้รถไฟอินโดนีเซียมักมีผู้โดยสารอัดแน่นเสมอ