เอเอฟพี - ราคาน้ำมัน และวอลล์สตรีทปิดในแดนบวกวานนี้ (6) หลังข้อมูลภาคแรงงานอันสดใสประจำเดือนพฤศจิกายน ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังลงต่อเนื่อง ด้วยความกังวลว่าปัจจัยนี้จะผลักให้เฟดลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 37 เซ็นต์ ปิดที่ 97.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 63 เซ็นต์ ปิดที่ 11.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันตลาดลอนดอน ได้แรงหนุนจากความกังวลต่อความยุ่งเหยิงทางอุปทานในทะเลเหนือ หลังพายุฤดูหนาวรุนแรงยังคงซัดถล่มตอนเหนือของยุโรปต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์ (6) คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 10 ราย และอีกหลายแสนคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ ขณะที่การสัญจรทางบก อากาศ และการเดินรถไฟต้องประสบกับความโกลาหล
ส่วนราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้ปัจจัยเสริมจากข้อมูลภาคแรงงานอเมริกา ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังมั่นคง โดยข้อมูลกระทรวงแรงงานพบว่า อัตราคนว่างงานเดือนพฤศจิกายน ลดสู่ระดับร้อยละ 7.0 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของประเทศก็มีการจ้างงานถึง 203,000 อัตรา เหนือกว่าที่คาดหมายอย่างมาก
ข้อมูลอันแข็งแกร่งของภาคแรงงานสหรัฐฯ นี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้ (6) ปิดบวกพอสมควร โดยเฉพาะดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี ที่ขยับขึ้นกว่าร้อยละ 1
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 197.92 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,019.43 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.89 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,804.92 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.34 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,062.50 จุด
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งตัวเลขคนว่างงานที่ลดลง และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ กลับฉุดให้ทองคำวานนี้ (6) ขยับลง เหตุนักลงทุนกังวลว่ามันอาจทำให้ธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,229.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์