xs
xsm
sm
md
lg

UN จี้ไทยสอบ ตม.ขายโรฮิงญาให้แก๊งค้ามนุษย์ สหรัฐฯ จ่อลดระดับต่ำสุดเทียบเกาหลีเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซี - สหประชาชาติ และสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (6) เรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนรายงานของรอยเตอร์ที่พบว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยขนชาวโรฮิงญาให้แก๊งค้ามนุษย์กลางทะเล ขณะที่ประเด็นนี้ก็ส่อให้อเมริกาลดระดับไทยสู่ขั้นต่ำสุดด้านค้ามนุษย์ และอาจนำมาซึ่งโดนมาตรการคว่ำบาตรบางอย่าง

รายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (5) อ้างข้อมูลการสืบสวนยาวนาว 2 เดือนใน 3 ประเทศ เผยให้เห็นว่า มีการลอบนำตัวเหล่าผู้ลี้ภัยโรฮิงญาจากศูนย์กักกันผู้อพยพของไทย ขายให้แก่ขบวนการค้ามนุษย์ และส่งมอบกันกลางทะเล จากนั้นชาวโรฮิงญาเหล่านี้ก็จะถูกพาไปยังภาคใต้ และกักขังในค่ายลับกลางป่าติดกับชายแดนมาเลเซีย จนกว่าญาติๆ จะยอมจ่ายเงินค่าไถ่ ด้วยบางส่วนถูกทุบตี และบางคนก็ถึงขั้นเสียชีวิต

“ข้อกล่าวหานี้จำเป็นต้องมีการสืบสวนอย่างเร่งด่วน” นางวิเวียน แทน โฆษกหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวในถ้อยแถลง “เราได้ร้องขอประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้เสมอมา ต่อมาตรการปกป้องชั่วคราวแก่ผู้ลี้ภัย ในนั้นรวมถึงป้องกันการถูกทำทารุณ และแสวงหาประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง”

ด้านสหรัฐฯ ก็ออกเรียกร้องแบบเดียวกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า “เราทราบถึงรายงานที่กล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายผู้ลี้ภัยโรฮิงญาแก่ขบวนการค้ามนุษย์” แมรี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุ “เราเรียกร้องรัฐบาลไทยดำเนินการสืบสวนอย่างจริงจัง และโปรงใส่ในประเด็นนี้”

รอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เกี่ยวกับค่ายคุมขังลับๆ ว่า มีค่ายแบบนี้อยู่จริง แต่นายตำรวจไทยยืนยันว่าไทยได้สอบสวน และดำเนินคดีต่อพวกค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือแล้วหลายราย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ยอมรับว่า มีนโยบายอย่างไม่เป็นทางการในการเนรเทศชาวโรฮิงญากลับไปยังพม่าจริง โดยเรียกว่าเป็นแนวทางปกติ หรือทางเลือกที่ 2 แต่เขาก็บอกว่าชาวโรฮิงญาเหล่านี้ได้ลงนามในหนังสือเมื่อพวกเขาตอบตกลงเดินทางกลับพม่า อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์บอกว่าจากที่ได้เห็นเอกสารเหล่านั้นไม่มีการแปลเป็นภาษาโรฮิงญาแต่อย่างใด

“ในการควบคุมตัว จำเป็นต้องมีการแจ้งทางเลือกต่างๆ แก่พวกเขาในภาษาที่คนเหล่านั้นเข้าใจ” โฆษกหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าว “การตัดสินใจใดๆ ควรเป็นไปตามสมัครใจ และพวกที่เลือกออกจากค่ายก็ควรได้รับการปกป้องจากการถูกละเมิด และการหาประโยชน์จากพวกค้ามนุษย์”

ข้อมูลระบุว่า ในปี 2013 ไทยได้จับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าชาวโรฮิงญาได้ 9 ราย แต่ยังไม่มีรายใดถูกตัดสินว่ามีความผิด และเจ้าหน้าที่ 1 ใน 2 รายที่ถูกจับกุมก็ถูกถอนข้อหาในเวลาต่อมา

รายงานกล่าวว่า ข้อมูลการจับกุมดำเนินคดีในไทยเผยให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายผ่อนคลายลง โดยสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทีไอพี) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำปี 2013 พบในปี 2012 ไทยดำเนินคดีผู้ต้องสงสัย 27 ราย ลดลงจาก 67 ราย ในปีก่อนหน้านี้ และในจำนวน 27 ราย มีเพียง 10 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด

อีกด้านหนึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอชต์ ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ในนิวยอร์ก ก็ออกมาประณามไทยต่อการส่งมอบชาวโรฮิงญาแก่ขบวนการค้ามนุษย์ และเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่ ไทยอาจถูกลดระดับในบัญชีบังคับใช้กฎหมายค้ามนุษย์แย่ที่สุดในโลกของสหรัฐฯ

หากมีการลดระดับจริงก็จะเป็นผลให้ ไทย ชาติพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ และประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หล่นไปอยู่ในระนาบเดียวกับเกาหลีเหนือ และอิหร่าน ชาติที่มีการต่อสู้ปัญหาค้ามนุษย์ย่ำแย่ที่สุดของโลก และเสี่ยงเจอมาตรการคว่ำบาตรจากอเมริกา “รัฐบาลไทยจำเป็นต้องต้องชี้แจงต่อเรื่องนี้แก่ประชาคมนานาชาติอย่างจริงจัง” ฟิล โรเบิร์ทสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอชต์ ประจำภูมิภาคเอเชียระบุ

ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังรวบรวมข้อมูลสำหรับรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(Trafficking In Persons) ครั้งต่อไป ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในเดือนมิถุนายนปีหน้า ซึ่ง ไทย เสี่ยงถูกลดระดับสู่ (Tier 3) ถือเป็นระดับต่ำสุด เว้นแต่ว่าไทยจะดำเนินความพยายามอย่างมีนัยสำคัญเพื่อกำจัดการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ การอยู่ในระดับ 3 ทางทฤษฎีจะทำให้ประเทศนั้นๆ เสี่ยงต่อการถูกสหรัฐฯ ลงโทษอาจด้วยมาตรการกีดกันทางการค้า หรือระงับความช่วยเหลือ แต่ในทางปฏิบัติ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นมิตรเก่าแก่ของไทยอาจไม่ใช้มาตรการลงโทษกับไทย ทว่า การตกอยู่ในระดับเลวร้ายที่สุดน่าจะสร้างความขายหน้าแก่รัฐบาลไทยที่กำลังวิ่งเต้นอย่างหนักเพื่อให้ได้เก้าอี้สมาชิกหมุนเวียนในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น