เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแสดงความเสียใจที่เหตุประท้วงขับไล่รัฐบาลไทยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายศพ พร้อมเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาล หันหน้าเจรจากันเพื่อคลี่คลายวิกฤตการเมืองอย่างสันติ วานนี้ (2)
เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า “เรารู้สึกกังวลต่อปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย และได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
“การชุมนุมประท้วงอย่างสันติและเสรีภาพในการแสดงออกถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบอบประชาธิปไตย... อย่างไรก็ดี การใช้ความรุนแรงบุกยึดสถานที่ราชการ หรือเอกชน ไม่ใช่วิธีที่รับได้ในการแก้ไขมุมมองทางการเมืองที่แตกต่าง”
คริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และบรรดาแกนนำฝ่ายค้าน “เพื่อขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น และหันมาเจรจากันโดยสันติ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเสริม
“แน่นอนว่าสหรัฐฯ รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตในเหตุรุนแรงกลางกรุงเทพมหานครที่มีต้นเหตุจากการเมือง เราขอประณามการใช้ความรุนแรงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมืองทุกรูปแบบ และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และเคารพกฎหมายบ้านเมือง”
ในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (2) นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องการให้เธอลาออก ขณะที่ตำรวจก็ได้ออกหมายจับ สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.ในข้อหา “กบฏ”
ตำรวจใช้ทั้งแก๊สน้ำตา, เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนยาง สกัดกั้นกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งพยายามบุกเข้าไปในสถานที่ราชการสำคัญๆ โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหตุปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายราย และบาดเจ็บกว่า 100 คน
เหตุประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการแสดงพลังภาคประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2010 โดยมีจุดประสงค์เพื่อโค่นล้ม “ระบอบทักษิณ” และจัดตั้ง “สภาประชาชน” ขึ้นบริหารประเทศแทน