เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้สายการบินพาณิชย์ของอเมริกาปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยการผ่านเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของจีน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวานนี้ (29)
ก่อนหน้านั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่ากองทัพอเมริกันจะยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติเช่นเคย แม้จีนจะส่งเครื่องบินรบมาเฝ้าจับตาอากาศยานของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในพื้นที่ดังกล่าวก็ตาม
รัฐบาลหลายประเทศปฏิเสธที่จะยอมรับเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศที่จีนประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และครอบคลุมเหนือหมู่เกาะพิพาท “เซ็งกากุ/เตี้ยวอี๋ว์” ในทะเลจีนตะวันออกด้วย ขณะที่วอชิงตันก็ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เข้าไปบินผ่านน่านฟ้าดังกล่าวมาแล้ว
พันเอก สตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน ให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีเที่ยวบินที่จะต้องเชื่อมต่อผ่านน่านฟ้าสากลทั่วทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงเขต ADIZ ที่จีนประกาศ”
“เที่ยวบินเหล่านี้เป็นไปตามนโยบายเสรีภาพด้านการบินของสหรัฐฯ ซึ่งเราใช้มานานและเป็นที่ทราบกันดี... ผมขอยืนยันว่าเรายังมีเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติภารกิจตามปกติ”
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงย้ำว่า การที่สายการบินพาณิชย์ของสหรัฐฯ ยอมปฏิบัติตามระเบียบของจีน “ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลวอชิงตันยอมรับเงื่อนไขในการใช้เขต ADIZ ที่จีนประกาศ”
ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ กล่าวหาว่าปักกิ่งกำลังก่อความขัดแย้งในภูมิภาคด้วยการขยายเขต ADIZ และการที่จีนส่ง “เครื่องบินรบหลายลำ” ขึ้นไปจับตาอากาศยานของชาติอื่นๆ ก็ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก
สำนักข่าวซินหวาของจีนอ้างถ้อยแถลงจาก เฉิน จินเก๋อ โฆษกกองทัพอากาศจีน ซึ่งระบุว่า “เครื่องบินรบหลายลำถูกส่งขึ้นไปตรวจสอบที่มา” ของเครื่องบินสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่รุกล้ำเข้ามาในเขต ADIZ และพบว่าสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินสอดแนมเข้ามา 2 ลำ ส่วนอากาศยานของญี่ปุ่นผ่านเข้ามาถึง 10 ลำ รวมไปถึงเครื่องบินรบ F-15 ด้วย
