เอเอฟพี - ราคาน้ำมันโลกวานนี้ (26) ปรับลดเล็กน้อย คาดอุปสงค์พลังงานในสหรัฐฯยังอ่อนแอ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก โดยดัชนีแนสแดคทะลุ 4,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ จากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนทองคำแม้ขยับขึ้น แต่ก็เชื่อว่าเป็นการช้อนซื้อระยะสั้นเท่านั้น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 41 เซ็นต์ ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ 110.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในข้อมูลของดาวโจนส์ นิวส์ไวรส์ เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายว่า รายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันพุธ (27) จะเผยให้เห็นว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดในวันที่ 22 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นราว 500,000 บาร์เรล หลังจากช่วง 9 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ คลังน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นถึง 32.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 388.5 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (26) ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่แนสแดก ปิดเหนือ 4,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี หลังได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.73 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,074.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.48 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,802.96 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 23.18 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,017.75 จุด
รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เหล่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม มีแผนก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ในอัตราที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบ 5 ปี ส่งสัญญาว่าบริษัทเหล่านี้มีความเชื่อมั่นว่าการเช่าห้องพักจะขยายตัวอย่างร้อนแรงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ปัจจัยนี้ทำให้หุ้นของกลุ่มบริษัทก่อสร้างบ้านอย่าง พูลเต, โทลล์ บราเธอร์ส และเลนนาร์ ต่างดีดขึ้นกันถ้วนหน้า
ด้านราคาทองคำวานนี้ (26) ปิดบวกเล็กน้อย จากแรงช้อนซื้อระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลงในอนาคต เนื่องจากความต้องการที่แท้จริงยังอ่อนแอและความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 0.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,241.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์