เอเจนซีส์ - ปัญหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ในโลกยุคดิจิตอล โดยเฉพาะที่มีกล้องCCTVจับตลอดเวลาในทุกสถานที่ และสามารถนำไปใช้ด้านต่างๆได้ รวมถึงกล้องจากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์Gadgetต่างๆ ทำให้นักวิจัยชาวญี่ปุ่นจากสถาบัน National Institute of Informatics คิดประดิษฐ์ “Privacy Visor” หรือ แว่นตาพรางตัวขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สวมใส่ถูกจับภาพดวงตาซึ่งเป็นผลที่จะทำให้ระบบ Facial Recognitionของกล้องทุกชนิดไม่สามารถโฟกัสใบหน้าได้
การที่ต้องพรางตัวด้วยการสวมแว่นกันแดดสีดำตลอดเวลาอาจจะทำไม่ได้ในทุกสถานการณ์ และการสวมแว่นดำตลอดยังไปสอดคล้องกับค่านิยมของสมาชิกยากูซ่าญี่ปุ่นอีกด้วย ดังนั้นทีมนักวิจัยจากสถาบัน National Institute of Informatics แห่งกรุงโตเกียว ได้คิดค้นแว่นกันแดดสีขาวขึ้น ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อทำให้ผู้สวมใส่สามารถยังมีความส่วนตัวเมื่ออยู่ท่ามกลางอุปกรณ์ตรวจจับใบหน้า เช่น กล้องCCTVได้
ซึ่งแว่นพรางตัวต้นแบบนี้ใช้แสง 11near-Infrared LEDกันดวงตาของผู้สวมไม่ให้ถูกจับด้วยระบบ Facial Recognition แสงนี้จะไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่ามนุษย์ แต่จะสว่างขึ้นเมื่อถูกจับจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก เช่น กล้องถ่ายรูป โดยผู้ใช้ต้องเปิดสวิตเพื่อใช้งาน การทำงานของระบบตรวจจับใบหน้าคือ ดวงตาและบางส่วนของจมูกนั้นจะมืด ในขณะที่ส่วนอื่นของจมูกจะสว่าง ดังนั้นหากให้แสงใกล้ในส่วนที่มืดของบริเวณใบหน้าแล้ว จะสามารถทำให้ระบบ Facial Recognition ไม่สามารถจับใบหน้าได้เป็นผลสำเร็จ
นอกจากนี้ยังมีอีกรุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยใช้วัสดุสะท้อนแสงช่วยให้สามารถใช้แสงจากภายนอกเข้าช่วยเพื่อให้มีแสงสีขาวเกิดขึ้นในการช่วยป้องกันการตรวจจับ ซึ่งรุ่นนี้จะไม่ต้องใช้แหล่งให้พลังงานกับแว่นแต่อย่างใด และยังมีราคาถูกอีกด้วย ซึ่งแว่นรุ่นใหม่ที่จะถูกพัฒนาในภายหลังจะสามารถทำให้สวมใส่ได้ง่ายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน และยังสามารถใช้ได้กับกล้องทุกรูปแบบอีกด้วย
นักวิจัย อิซาโอ อิชิเซน เผยว่า แว่นพรางตัว “Privacy Visor” รุ่นใหม่นั้นจะสามารถให้เฉดสีเช่นเดียวกับแว่นกันแดดทั่วไปเพื่อในกรณีที่ผู้สวมต้องการใช้เพื่อป้องกันแสงแดด แต่หากผู้ใช้ที่ไม่ต้องการเป็นจุดสนใจเนื่องจากการใส่แว่นตากันแดดสีทึบ แว่นตาพรางตัวนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแน่นอน