เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ในวันเสาร์ (16) พลเมืองอิตาลีราวแสนคนได้ออกเดินขบวนประท้วงกลางเมืองนาโปลี (Napoli) หรือเมืองเนเปิลส์ ที่อยู่ทางใต้ของอิตาลี เพื่อต่อต้านการทิ้งขยะสารพิษอย่างผิดกฎหมาย โดยผู้ประท้วงพุ่งเป้าไปที่มาเฟียท้องถิ่นว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
เมื่อวานนี้ (16) ผู้ประท้วงชาวอิตาลีจำนวนราว 30,000-100,000 คน ได้ตระโกนว่า “No to Camorra” ซึ่งหมายถึงไม่เอากลุ่มมาเฟียท้องถิ่น Camorra และมีผู้ประท้วงบางคนได้ถือรูปของบรรดาญาติที่เสียชีวิตเพราะมะเร็ง ซึ่งผู้ประท้วงต่างเชื่อว่ามะเร็งนี้มีสาเหตุมาจากมลภาวะเป็นพิษ โดยชาวเมืองท้องถิ่นในละแวกเมืองนาโปลี และเมืองกาแซร์ตา ต่างเรียกบริเวณนี้ว่า “สามเหลี่ยมแห่งความตาย” เพราะแก๊สพิษที่เกิดขึ้นหลังจากการเผาไหม้ของขยะเป็นพิษ
จากรายงานพบว่า ขยะอุตสาหกรรมจำนวน 10 ล้านตัน ได้ถูกทิ้งในบริเวณนี้เป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปีมาแล้ว ซึ่ง Legambiente กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จัดการประท้วงในวันเสาร์ (16) เผยว่ามีธุรกิจนับ 440 แห่งในทางตอนกลางและทางตอนเหนือของอิตาลีได้แอบทิ้งขยะสารพิษผิดกฏหมายในบริเวณนี้
“หลังจากรับรู้แล้วว่ามีการทิ้งสารพิษ ความสำคัญลำดับต่อมาคือต้องหาว่าใครจะต้องรับผิดชอบ” โรสเซลลา มูโรนี ผู้อำนวยการกลุ่ม Legambienteเผย อ้างโดยเอพี ซึ่งนอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต้องการให้มีการทำความสะอาดแหล่งดินและแหล่งน้ำให้ปลอดจากสารพิษตกค้าง และเป็นเพราะมีสารพิษตกค้างเพิ่มขึ้นทุกปี ทางรัฐบาลอิตาลีได้ให้สัญญาที่จะเริ่มโครงการกำจัดมลพิษในบริเวณนี้
นอกจากกลุ่มชาวเมืองนาโปลีที่ร่วมการประท้วงครั้งนี้แล้ว ยังรวมไปถึงนายกเทศมนตรีนาโปลี คนสำคัญระดับท้องถิ่น ที่รวมถึงนักร้อง นีโน เด แองเจิลโล และบาทหลวง มัวริซิโอ พาทริซิเอโร ซึ่งเป็นคนแรกที่เห็นถึงปัญหานี้ โดย 20 ปี ก่อนหน้า บรรดานายแพทย์ชาวอิตาลีได้สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยมะเร็งในบริเวณเมืองนาโปลีเพิ่มสูงขึ้นจนหน้าแปลกใจ พบว่าผู้หญิงชาวเมืองท้องถิ่นมีการพบเนื้องอกเพิ่มขึ้นถึง 40% ในขณะที่ฝ่ายชายพบเพิ่มขึ้นถึง 47%
