เอเอฟพี - หนุ่มเร่ร่อนคนหนึ่งต้องสงสัยลอบฆ่าตาเฒ่าวัย 90 ปี ขณะกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านพัก ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางใต้ของฝรั่งเศส จากนั้นก็ควักหัวใจและลิ้นเหยื่อออกมากินแกล้มถั่วขาว ย้อนให้นึกถึงฆาตกรในหนังแนวสยองขวัญ ฮันนิบาล เล็กเตอร์ แหล่งข่าวใกล้ชิดคดีเผยเมื่อวันศุกร์(15)
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมสืบสวนเผยว่าหนุ่มเร่ร่อนลอบเข้าไปยังบ้านพักของเหยื่อซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านนูยีอ็อง ห่างไกลผู้คนเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(14) จากนั้นก็ฉวยเหล็กจากโรงนาและฟาดเข้าบริเวณกะโหลกของชายชรา
ในคำให้การกับตำรวจเบื้องต้น ชายวัย 26 ปีรายนี้จัดการจุดไฟเผาศพ จากนั้นก็ควักหัวใจและลิ้นของเหยื่อมาปรุงอาหารแล้วก็รับประทาน "มันคงเป็นภาพที่ไม่น่าดูนัก" แหล่งข่าวบอกกับเอเอฟพี
ตำรวจพบศพที่ถูกเผาไหม้ของเหยื่อในสภาพที่มีแผลเปิดบริเวณด้านข้างลำตัว นอกจากนี้แล้วยังพบเนื้อปรุงแล้ววางอยู่บนจานและถั่วขาวที่เชื่อว่าคนร้ายเอามาจากตู้เย็นของเหยื่อ
รายละเอียดที่ถูกเปิดโปงออกมาของคดีนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ "The Silence of the Lambs" ตำนานบทแรกของ ฮันนิบาล เล็กเตอร์ ฆาตกรอัจฉริยะที่รู้จักกันดีในหนังสือนิยายแนวอาชญากรรม โดยโทมัส แฮร์ริส นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งตัวละคร เล็กเตอร์ นั้นมักชอบกินตับเหยื่อแกล้มกับปากอ้าและไวน์เคียนติ
จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนยังพยายามค้นหาหลักฐานพิสูจน์คำรับสารภาพอันน่าสยดสยองของผู้ต้องสงสัย แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาปรุงหรือกินชิ้นส่วนศพที่เฉือนออกมาทั้งหมดหรือไม่
คดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญนี้แดงขึ้นมา เมื่อผู้ก่อเหตุพยายามจุดไฟเผาร่างไร้วิญญาณของชายชราที่ถูกเฉือนอวัยวะไปแล้วอีกรอบ ทำให้ลูกชายของเหยื่อที่พักอาศัยอยู่ใกล้ๆ สังเหตเห็นความผิดปกติ อย่างไรก็ตามกว่าที่ตำรวจจะมาถึงผู้ต้องสงสัยก็หลบหนีออกจากบ้านไปแล้ว โดยระหว่างนั้นเขายังทำร้ายชายอีกคนจนได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ด้วย
จากนั้นเขาก็ลอบเข้าไปในบ้านอีกหลัง แต่ก็ถูกขับไล่โดยฝูงสุนัขและผู้เป็นเจ้าของจนต้องหลบหนีออกมา ก่อนท้ายที่สุดตำรวจจะตะครุบตัวคนร้ายได้ตอนราวๆเที่ยงคืน ขณะที่อัยการท้องถิ่นเผยว่า "เขาดูสงบและไม่ได้แสดงอาการก้าวร้าวใดๆเลย เขาให้การว่าที่ลงมือทำเพราะเสียงและข้อความที่วนเวียนอยู่ในหัว เขาอ้างว่ามันบอกให้เขาทำแบบนี้"
ดูเหมือนว่าชายวัย 26 ปีรายนี้ได้เตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายโดยไม่ได้นอนมา 2 ถึง 3 วัน ขณะที่ผลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยไม่มีความเชื่อมโยงกับเหยื่อแต่อย่างใด