เอเจนซีส์ - คณะนักวิทยาศาสตร์สวิสสรุป “ยัสเซอร์ อาราฟัต” อาจจะเสียชีวิตจากพิษสารกัมมันตภาพรังสี “โพโลเนียม” ทำให้ ซูฮา ภรรยาม่ายอดีตผู้นำองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) ผู้นี้ ระบุเป็นการลอบสังหารทางการเมือง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลอาจอยู่เบื้องหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่พีแอลโอก็เรียกร้องให้นานาชาติเข้าดำเนินการสอบสวน ส่วนทางด้านรัฐบาลยิวรีบออกโรงปฏิเสธและโต้กลับทันควัน
รายงานการวิเคราะห์ความยาว 108 หน้าจากคณะนักวิจัยของสถาบันฟิสิกส์รังสี และของศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์ของอัลญะซีเราะห์ สถานีทีวีดาวเทียมชื่อดังของกาตาร์ในวันพุธ(6พ.ย.) ระบุว่า การทดสอบจากศพของอาราฟัตสนับสนุนความคิดที่ว่า อดีตผู้นำปาเลสไตน์ผู้นี้เสียชีวิตจากสารกัมมันตภาพรังสี โพโลเนียม-210
อาราฟัตเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2004 ขณะอายุ 75 ปี โดยแพทย์ไม่สามารถระบุสาเหตุการตาย และไม่มีการชันสูตรศพตามคำขอของภรรยา
อย่างไรก็ดี มีการขุดศพของอาราฟัตขึ้นมาในเดือนพฤศจิกายน 2012 และเก็บตัวอย่างเพื่อใช้ในการสอบสวนว่า เขาถูกลอบวางยาพิษหรือไม่ โดยแยกการตรวจสอบออกเป็น 3 ทีมคือ คณะผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์
ทั้งนี้ ข้อสงสัยเรื่องอาราฟัตถูกลอบวางยาพิษนั้นโหมกระพือขึ้น หลังการลอบฆ่าอเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับรัสเซียที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับวังเครมลิน ในลอนดอน เมื่อปี 2006 แล้วมีข้อสรุปกันว่าเขาเสียชีวิตเพราะถูกสายของวังเครมลินลอบวางยาพิษที่เป็นสารกัมมันตภาพรังสีชนิดนี้
รายงานที่ผู้เชี่ยวชาญสวิตเซอร์แลนด์ 10 คนร่วมลงชื่อรับรองที่เปิดเผยล่าสุดนี้ ระบุว่า พบโพโลเนียม-210 ในสะโพกและเชิงกรานของอาราฟัต รวมทั้งดินบริเวณที่ฝังศพ ในปริมาณสูงกว่าปกติอย่างน้อย 18 เท่า
ศาสตราจารย์เดวิด บาร์เคลย์ นักนิติเวชวิทยาของอังกฤษ ที่อัลญะซีเราะห์ว่าจ้างให้แปลรายงานการทดสอบของนักวิจัยสวิสเชื่อว่า โพโลเนียมที่พบในร่างกายของอาราฟัตเป็นประเภทที่ผลิตในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยคนแวดล้อมอดีตผู้นำปาเลสไตน์น่าจะลอบนำสารเคมีนี้ที่อยู่ในรูปผงใส่ในเครื่องดื่ม อาหาร ยาหยอดตา หรือยาสีฟันของอาราฟัต
ทางด้าน ซูฮา ภรรยาม่ายของอาราฟัต ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์จากปารีสว่า นี่เป็นการก่ออาชญากรรมและการลอบสังหารทางการเมือง และแม้ไม่ได้กล่าวหาใครหรือประเทศใดโดยตรง แต่เธอตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลเคยประกาศว่า อาราฟัตเป็นผู้ขัดขวางสันติภาพ
ซูฮายังเรียกร้องให้มีการสอบสวนมูกาตา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของปาเลสไตน์ และบอกว่า เธอและบุตรสาวจะนำเรื่องนี้ฟ้องร้องต่อศาลในฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ จนกว่าผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษ
ขณะที่ วาเซล อะบู ยูเซฟ สมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมการบริหารองค์การพีแอลโอ แถลงในวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) เรียกร้องให้นานาชาติเข้ามาสอบสวนการฆาตกรรมอาราฟัต
“ผลการตรวจสอบพิสูจน์ว่าอาราฟัตมีพิษของโพโลเนียม และสารชนิดนี้คนที่จะครอบครองได้คือรัฐ ไม่ใช่คนทั่วไป จึงหมายความว่าอาชญากรรมคราวนี้กระทำโดยรัฐๆ หนึ่ง” เขากล่าวพร้อมกับเรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมการนานาชาติเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ ทำนองเดียวกับที่เคยมีการสอบสวนกรณีลอบสังหารนายกรัฐมนตรีราฟิก ฮาริรี แห่งเลบานอน
สำหรับกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล รู้สึกร้อนใจจนต้องออกมาตอบโต้เมื่อวันพุธว่า การตรวจสอบล่าสุดขาดความสมบูรณ์ อีกทั้งดำเนินการโดยกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์และไม่เป็นกลาง
“นี่คือละครน้ำเน่าที่ซูฮาพยายามใช้เพื่อต่อสู้กับผู้สืบทอดอำนาจต่อจากอาราฟัต” ไยกัล ปาลมอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลระบุและย้ำว่า อิสราเอลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน สำนักข่าววาฟาของทางการปาเลสไตน์รายงานว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญรัสเซียที่ได้รับมอบหมายจากปาเลสไตน์ ได้ส่งรายงานการสอบสวนแล้วเช่นกันตั้งแต่วันที่ 2 ที่ผ่านมา
