เอเอฟพี – ปาเลสไตน์ไม่สามารถร่วมเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล หากรัฐยิวยังเดินหน้าขยายที่ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดครองอยู่ เจ้าหน้าที่อาวุโสของปาเลสไตน์กล่าวกับเอเอฟพีวานนี้ (5 พ.ย.)
“ฝ่ายอิสราเอลมุ่งมั่นจะเดินหน้าสร้างถิ่นฐานชาวยิว เราจึงไม่สามารถร่วมเจรจาสันติภาพด้วยอีกต่อไป ในสภาวการณ์ที่มีการตั้งถิ่นฐานโดยพลการอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเช่นนี้” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว โดยขอไม่เปิดเผยนาม ภายหลังที่ผู้เจรจาฝ่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์โต้เถียงกันในการประชุมอย่างดุเดือด
“ในการหารือกันเมื่อคืนวานนี้ (5) การเจรจาระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลพังไม่เป็นท่า” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเผย ในช่วงเวลาที่จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เดินทางมายังนครเยรูซาเล็มเพื่อประคับประคองกระบวนการสันติภาพอันเปราะบาง
เคร์รี มีกำหนดเข้าพบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ที่เยรูซาเล็ม และจะเดินทางไปพูดคุยกับประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ที่เมืองเบธเลเฮม ในเขตเวสต์แบงก์ในวันนี้ (6)
แม้ว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกันเกือบ 20 ครั้ง แต่พวกเจ้าหน้าที่ของปาเลสไตน์ และสื่อมวลชนของอิสราเอลต่างเตือนว่า การเจรจาอาจจะล้มเหลว หากเคร์รีไม่เข้าแทรกแซงเพื่อให้ให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาสู่แนวทางที่จะพูดคุยกันต่อไปได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพเริ่มต้นขึ้นใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากที่หยุดชะงักไป 3 ปี ซึ่งก็เป็นเพราะประเด็นการตั้งถิ่นฐานนี้เอง ที่ทำให้การเจรจาคราวที่แล้วล้มไม่เป็นท่า และเมื่อสหรัฐฯ เดินทางไปเจรจาการทูตกับอิสราเอลและปาเลสไตน์ในรอบล่าสุดนี้ ก็ต้องพบว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ปาเลสไตน์เป็นเดือดเป็นแค้นกับการที่อิสราเอลเดินหน้าสร้างที่พักอาศัยให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งตำหนิอิสราเอลว่าไม่มีความโปร่งใสในเรื่องการแบ่งเส้นเขตแดน
ทางด้าน ปาเลสไตน์เน้นย้ำว่า เส้นพรมแดนนั้นควรอิงกับเส้นเดิมที่กำหนดไว้ก่อนที่ “สงครามหกวัน” จะปะทุขึ้นในปี 1967 โดยในสงคราม 6 วันนั้น อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซา และเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงพื้นที่ทางตะวันออกของนครเยรูซาเล็ม
อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮูออกมาปฏิเสธไม่ให้กลับไปใช้เส้นเขตแดนในปี 1967 เป็นเส้นพรมแดนถาวร โดยระบุว่าการหวนกลับไปเช่นนั้นคือ การไม่คำนึงถึง “การเปลี่ยนแปลงทางประชากรในพื้นที่” ซึ่งเป็นคำที่ใช้กล่าวถึง การตั้งถิ่นฐานของชาวยิวอย่างชัดเจน