เอเอฟพี – ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงขู่คว่ำบาตรฟิลิปปินส์ หากยังไม่มีคำขออภัยต่อเหตุการณ์จี้รถบัสนักท่องเที่ยวในกรุงมะนิลาเมื่อปี 2010 ซึ่งทำให้พลเมืองฮ่องกงเสียชีวิตไป 8 ราย
รัฐบาลฮ่องกงเรียกร้องให้กรุงมะนิลาแถลงขออภัยอย่างเป็นทางการ หลังเจ้าหน้าที่เจรจาเกลี้ยกล่อมอดีตตำรวจที่หันมาทำตัวเป็นโจรจี้รถบัสไม่เป็นผล จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงต้องสังเวยชีวิตไป 8 ราย บาดเจ็บอีก 7 คน
“หากภายใน 1 เดือนนับจากนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังไม่ดำเนินการคลี่คลายปัญหาอย่างจริงจัง เราก็จำเป็นต้องใช้มาตรการคว่ำบาตร” เหลียง เจิ้นอิง ผู้บริหารเกาะฮ่องกง แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(5) โดยไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้
“ผมขอให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ และ/หรือฝ่ายบริหารกรุงมะนิลา ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนั้น” เหลียง กล่าวเสริม
การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจฟิลิปปินส์ที่ด้อยประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดสร้างความโกรธแค้นในหมู่พลเมืองฮ่องกง ซึ่งเป็นเมืองที่สถิติอาชญากรรมน้อย และยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับฟิลิปปินส์ขมขื่นนับแต่นั้นมา
ฮ่องกงยังคงประกาศเตือนให้พลเมืองหลีกเลี่ยงเดินทางไปฟิลิปปินส์นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2010 ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงก็กำลังอภิปรายว่า สมควรเลิกนโยบายยกเว้นวีซาแก่ชาวฟิลิปปินส์ ตลอดจนใช้มาตรการคว่ำบาตรการค้าหรือไม่
ปัจจุบันมีพลเมืองฟิลิปปินส์พำนักอยู่บนเกาะฮ่องกงกว่า 160,000 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นแม่บ้าน ส่วนการค้าระหว่างประเทศก็มีมูลค่าสูงถึง 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2012
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดี โจเซฟ เอสตราดา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา เสนอให้รัฐบาลขออภัยต่อเหตุจี้รถบัสนักท่องเที่ยวฮ่องกง แต่ประธานาธิบดี เบนิโญ อากิโน ปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้นในนามของประเทศ โดยชี้ว่าการตายของนักท่องเที่ยวเป็นความผิดของอดีตตำรวจผู้ก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว
มะนิลาเคยเสนอที่จะมอบเงินชดเชยจำนวน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,340,000 บาท)ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และสูงสุด 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4,680,000 บาท) สำหรับผู้ที่บาดเจ็บ แต่ครอบครัวผู้สูญเสียชาวฮ่องกงปฏิเสธที่จะรับเงิน โดยชี้ว่าวงเงินเพียงเท่านี้ไม่อาจเทียบได้กับชีวิตของบุคคลที่พวกเขารัก