xs
xsm
sm
md
lg

ศาลแอฟริกาใต้ จำคุก 35 ปี “ชายผิวขาว” วางแผนลอบฆ่า “แมนเดลา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกกลุ่ม โบเอเรมัก ขณะฟังคำพิพากษาในศาลสูงกรุงพริทอเรีย
เอเอฟพี – ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวา ที่เป็นตัวการใหญ่ในแผนลอบสังหาร เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ และแผนขับไล่ชาวผิวดำออกจากประเทศ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 35 ปีแล้ววานนี้ (29 ต.ค.)

ไมค์ ดู ตัวต์ ผู้นำกลุ่มเหยียดสีผิวกลุ่มติดอาวุธที่มีชื่อว่า “โบเอเรมัก” ถูกตัดสินโทษหนักที่สุดนั่นคือจำคุกสูงสุด 35 ปี พร้อมจำเลยอีก 4 คนที่ร่วมกันในแผนการเมื่อปี 2002 ซึ่งมุ่งโค่นล้มรัฐบาลหลังยสิ้นสุดยุคการแบ่งแยกสีผิว ทว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จ

เมดูเป ซีมาซีกู โฆษกของสำนักงานอัยการแห่งชาติแอฟริกาใต้ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า ผู้พิพากษาศาลสูงในกรุงพริทอเรีย ยังพิพากษาให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธอีก 20 คนที่เหลือ รับโทษจำคุกระหว่าง 10 ถึง 30 ปี โดยอยู่ที่ว่าพวกเขามีส่วนร่วมในแผนการครั้งนั้นมากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้ ศาลตัดสินให้จำเลยทั้งหมดมีความผิดฐานก่อกบฏ แต่มีเพียง 5 คนที่มีความผิดฐานฆ่าคนตาย และฐานวางแผนสังหารแมนเดลา ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพผู้นี้

ผู้พิพากษา อีเบน จอร์ดาน ระบุว่า แมนเดลาเกือบจะเสียชีวิตจากกับระเบิดที่ โบเอเรมัก นำไปฝังไว้ ซึ่งจะสร้างความความชุลมุนวุ่นวาย และเหตุนองเลือดในประเทศ หากเขาเดินทางโดยรถยนต์แทนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อไปร่วมพิธีเปิดโรงเรียนชนบทในจังหวัดลิมปูปู ทางภาคเหนือของประเทศ

“แผนของพวกเขาเกือบสำเร็จแล้ว อีกนิดเดียวจริงๆ” โทลลี วรอจเดนบูร์ก หัวหน้าพนักงานสืบสวน กล่าวกับเอเอฟพี

กลุ่ม โบเรเอมัก ได้วางแผนก่อเหตุวางระเบิดมาแล้วหลายครั้งเพื่อก่อความวุ่นวายในประเทศ ทั้งนี้ชื่อของกลุ่มมาจากภาษาแอฟริคานซ์ที่มีความหมายว่า “พลังของชาวโบเออร์” เป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาเป็นลูกหลานของนักล่าอาณานิคมชาวดัตช์ที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในแอฟริกาใต้
สมาชิกกลุ่ม โบเอเรมัก ขณะฟังคำพิพากษาในศาลสูงกรุงพริทอเรีย
เหตุระเบิดครั้งหนึ่งที่พวกเขาก่อขึ้น คือการโจมตีด้วยระเบิดหลายลูกในเขตปกครองโซเวโต ของเมืองโยฮันเนสเบิร์ก เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2002 ซึ่งคร่าชีวิตผู้หญิงไป 1 ราย และทำให้ประชาชนอีกหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ

สำนักข่าว SAPA รายงานว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ยังเตรียมระเบิดรถยนต์ไว้ 5 คัน โดยตั้งเป้าจะบึ้มใจกลางกรุงพริทอเลีย และนครโยฮันเนสเบิร์ก อีกทั้งตอนที่พวกเขาถูกจับได้นั้น ก็กำลังวางแผนจะก่อเหตุระเบิดขึ้นอีกหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม จำเลยในคดีนี้หลายคนจะสามารถกลับบ้านได้อย่างอิสระ เนื่องจากศาลได้พิพากษารอลงอาญาโทษจำคุก 10 ปี ตลอดจนนับรวมเวลาที่เขาที่พวกเขาถูกควบคุมตัวในช่วงพิจารณาคดีในศาล

ทางด้านรัฐบาลแอฟริกาได้แสดงความพอใจกับคำตัดสินของศาล

“คาดหวังว่า คำตัดสินเช่นนี้จะสามารถขัดขวางผู้ที่มีพฤติการณ์บ่อนทำลาย หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติได้” กระทรวงยุติธรรมระบุในคำแถลง

สตีเฟน ทิวสัน อาจารย์ประจำภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย วิทวอเตอร์สแรนด์ชี้ว่า คาดหมายกันอยู่แล้วว่า คำพิพากษาจะออกมาโดยให้ลงโทษหนัก เมื่อพิจารณาความร้ายแรงของข้อหา

“การก่อกบฏถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้ที่ถูกตั้งข้อหานี้อาจถึงขั้นถูกประหารชีวิตทีเดียว และโดยปกติแล้วจะต้องได้รับโทษขั้นรุนแรงที่สุด เขากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น