เอพี – ภูเขาไฟในบริเวณภาคตะวันตกของอินโดนีเซียได้ปะทุขึ้นในวันนี้ (24 ต.ค.) โดยปล่อยเถ้าถ่านสีดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งที่ประชาชนเพิ่งกลับจากการอพยพหนีการปะทุก่อนหน้านี้ มาอยู่บ้านตามปกติได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ทางการอินโดนีเซียรายงาน
การประทุขึ้นของภูเขาไฟซินาบุง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสุมาตราเหนือ ได้ส่งเถ้าถ่านสีดำทะมึนขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นความสูง 3 กิโลเมตร แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือความเสียหายแต่อย่างใด ซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอินโดนีเซียเผย
เขากล่าวว่า ทั้งหมู่บ้าน เรือกสวนไร่นา และต้นไม้ที่อยู่รอบภูเขาไฟสูง 2,600 เมตร ซึ่งกำลังส่งเสียงคำรามกึกก้องแห่งนี้ ต่างถูกเถ้าถ่านสีเทาจากภูเขาไฟปกคลุมอย่างหนาตา กระตุ้นให้ทางการอินโดนีเซียต้องอพยพประชาชนกว่า 3,300 คนออกจากพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านสองแห่ง ที่ตั้งอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรของภูเขาไฟในเขตคาโรแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภูเขาไฟลูกนี้ไม่ได้พ่นลาวาหรือเศษหินแตกๆ ออกมา อีกทั้งเมือง และหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่ได้รับอันตราย แต่ทางการได้ประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวอยู่ห่างจากรัศมี 1.5 กิโลเมตรของปล่องภูเขาไฟ เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ประชาชนกว่า 15,000 คนต้องละทิ้งบ้านเรือน เนื่องจากภูเขาไฟที่สงบมานาน 3 ปีแห่งนี้ ปะทุในระดับที่รุนแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยพ่นเถ้าถ่าน และกลุ่มควันออกมา นอกจากนี้ยังเกิดเพลิงไหม้ตามพื้นที่ลาดชันของภูเขาอีกด้วย
เดือนสิงหาคม ปี 2010 เป็นครั้งล่าสุดที่ภูเขาไฟลูกนี้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบีบให้ชาวบ้านอีก 30,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ภัยธรรมชาติครั้งนั้นเกิดขึ้นโดยที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากไหวตัวไม่ทัน เนื่องจากภูเขาลูกนี้สงบนิ่งมานาน 400 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ภูเขาไฟซินาบุง คือหนึ่งในภูเขาไฟยังคงมีพลังกว่า 120 ลูกในอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ “วงแหวนแห่งไฟ” ของมหาสมุทรแปซิฟิก อันเป็นแนวเส้นโค้งของภูเขาไฟและแนวรอยเลื่อนที่ล้อมรอบแอ่งแปซิฟิกอยู่