เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ในวันเสาร์ (19) ที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงชาวอิตาลีราว 70,000 คน ได้เกิดปะทะเข้ากับตำรวจปราบจลาจลของกรุงโรมที่หน้ากระทรวงการคลังอิตาลี หลังจากมีการขว้างปาไข่ หิน ระเบิดควัน ทำลายร้านค้า จุดไฟเผาถังขยะ และตำรวจตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงม็อบ หลังจากที่มีการเดินขบวนทั่วเมืองหลวงแห่งอิตาลีแห่งนี้ เพื่อหยุดยั้งมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิตาลี เอ็นริโก เล็ตตา นำมาใช้ตัดสวัสดิการสังคม เช่น สวัสดิการช่วยเหลือบ้านพักสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย รวมถึง ปัญหาการว่างงานของคนอิตาลี และความต้องการให้ยกเลิกโปรเจ็กต์ก่อสร้างโครงการใหญ่ ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีการจับกุมผู้ประท้วงหัวรุนแรงราว 15 คน และมีตำรวจราว 20 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ
นับเป็นวันที่ 2 ที่กลุ่มผู้ประท้วงราว 70,000 คน ประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอิตาลี เอ็นริโก เล็ตตา ที่นำมาใช้ในการตัดสวัสดิการสังคมสำหรับผู้ตกงานและสวัสดิการช่วยเหลือบ้านพักสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย รวมถึงโปรเจกต์ก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ โดยมีการปะทะเกิดขึ้นในวันเสาร์(19)ที่หน้ากระทรวงการคลังอิตาลี หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ชาวอิตาลีได้เริ่มจุดไฟถังขยะ และใช้กระบองหรือไม้เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลอิตาลีที่อยู่ในชุดป้องกันครบชุดทำหน้าที่ราว 4,000 นาย ทำให้มีผู้ประท้วงถูกจับตัวราว 15 คน พร้อมระเบิดควันและหินเป็นของกลาง
ในการประท้วงที่ตอนแรกทำท่าสงบบานปลายเป็นความรุนแรง เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงได้ตระโกนว่า “เรากำลังจะยึดเมืองนี้” และได้ขว้างปาสิ่งของ เช่น ระเบิดควัน ไข่ และขวดน้ำไปที่ว่าการกระทรวงการคลังอิตาลี รวมไปถึงทำลายกระจกของธนาคารในบริเวณใกล้เคียงแตกกระจาย
และในที่อื่นตลอดเส้นทางการประท้วง ตำรวจปราบจลาจลสามารถยึดชุดประทัดดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ที่มีกระสุนปืนซ่อนไว้ข้างในได้ โดยทางเจ้าหน้าที่อิตาลี กล่าวว่า หากสิ่งนี้ถูกจุดขึ้นมา มันจะเกิดเหตุที่ร้ายแรงครั้งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากนี้ผู้ประท้วงได้ขว้างแก๊สน้ำตาพร้อมกับจุดประทัดดอกไม้ไฟตลอดเส้นทาง และมีผู้ประท้วงหลายรายเตรียมที่จะปักหลักพักค้างที่หน้าทำการของสถานที่ทำการของหน่วยงานรัฐจนกระทั่งวันสุดท้ายของการประท้วง
เหตุการณ์ความไม่พอใจของสาธารณชนอิตาลีครั้งนี้ปะทุขึ้นจากการเปิดเผยงบประมาณปี 2014 ของรัฐบาลของเล็ตตาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ได้มีแผนการลดรายจ่ายการบริหารงานระดับรัฐบาลกลางและท้องถิ่นลง และทำให้มีการมองว่าไม่เป็นการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศถึงแม้จะมีมาตรการให้สิทธิพิเศษทางภาษีเป็นเวลา 3 ปี มูลค่า 14,600 ล้านยูโร มากระตุ้นก็ตาม ตลอดจนอัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่ของอิตาลีที่สูงตลอดกาลที่ 40.1%
งบประมาณประจำปีของอิตาลีที่มีราว 800 พันล้านยูโรนั้น ไม่สามารถทำให้อิตาลีก้าวพ้นออกจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนานกว่า 2 ปีได้ โดยงบประมาณปี 2014ล่าสุดนี้ มีแผนที่จะตัดลดการขาดงบดุลลงราว 2.5% แต่กระนั้นมันก็ยังดูแย่มากเมื่อเที่ยบกับประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างที่มีการประท้วงเกิดขึ้น บรรดาร้านรวงสองข้างทางตลอดเส้นทางการประท้วงได้ปิดตัวลง ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ได้สวมผ้าคาดหน้าผากเขียนต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดด้านต่างๆของรัฐบาล เช่น การตัดสวัสดิการพักราคาถูกสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ปัญหาการว่างงาน อัตราภาษีบุคคลที่สูง และต่อต้านโครงการรถไฟความเร็วสูง TAV เพื่อเชื่อมไปฝรั่งเศส จากสาเหตุปัจจัยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
และเป็นที่น่าสนใจว่า ผู้อพยพที่เข้าเมืองต้องการที่ลี้ภัยได้ร่วมการประท้วงครั้งนี้ด้วย โดยการคาดผ้ามีข้อความว่า “ลัมเปดูซา” ซึ่งเป็นชื่อเกาะที่ผู้อพยพเดินทางมาอิตาลีด้วยเรือจากแอฟริกาเหนืออาศัยอยู่
ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ (18) กลุ่มผู้ประท้วงทำให้การคมนาคมในอิตาลีเป็นอัมพาต รวมไปถึงบางเที่ยวบินที่จะบินเข้าหรือบินออกจากกรุงโรมต้องถูกยกเลิก