เอเอฟพี – สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง “อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ” และอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน จะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐฯ อนุมัติงบชั่วคราวเพื่อเปิดสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤต “ชัตดาวน์” หน่วยงานรัฐบาลกลางเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
อนุสาวรีย์ภูเขารัชมอร์, อุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกี และสถานที่ท่องเที่ยวของรัฐอีก 8 แห่งในรัฐยูทาห์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ทว่าแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกบางแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติโยเซมิติ และเรือนจำอัลคาแทรซ จะยังปิดให้บริการอยู่
สำนักงานอุทยานแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ทำข้อตกลงกับฝ่ายบริหารรัฐนิวยอร์ก, แอริโซนา, โคโลราโด, ยูทาห์ และเซาธ์ดาโกตา ซึ่งรัฐทั้ง 5 ยอมที่จะจ่ายงบประมาณอุดหนุนสถานที่สำคัญซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านๆ คน และยังเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้คงอยู่ได้
แจน บริวเวอร์ ผู้ว่าการรัฐแอริโซนา กล่าวชื่นชมข้อตกลงที่ช่วยให้อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนสามารถเปิดต้อนรับประชาชนที่จะมาพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 3 วัน
“ในช่วงลองวีคเอนด์นี้ ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่แกรนด์แคนยอน และสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ... มันไม่เพียงสำคัญต่อนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศที่ต้องการมาสัมผัส 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อธุรกิจและชุมชนที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวด้วย” บริวเวอร์ กล่าว
ภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวกว่า 400 แห่งทั่วสหรัฐฯ ต้องปิดให้บริการ สหรัฐฯสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวไปราวๆ 152 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และยังส่งผลกระทบต่อชีวิตพนักงานรัฐไม่ต่ำกว่า 450,000 คน ตามข้อมูลของสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ
รัฐนิวยอร์กจะจัดสรรเงินบริจาค 369,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่ออุดหนุนการดำเนินงานของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพเป็นเวลา 6 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (12) ไปจนถึงวันที่ 17 ตุลาคม เช่นเดียวกับรัฐแอริโซนาที่จะจ่ายเงิน 651,000 ดอลลาร์ เพื่อเปิดอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกีจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีก 10 วัน โดยอาศัยงบประมาณ 362,700 ดอลลาร์ จากรัฐโคโลราโด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอีก 8 แห่งในรัฐยูทาห์ก็ได้รับงบสนับสนุน 1.666 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเปิดทำการ 10 วันเช่นกัน
ทั้งนี้ ยังไม่แน่ว่ารัฐทั้ง 5 จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลกลางหลังจากภาวะชัตดาวน์สิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากเงินที่จ่ายไปถือเป็น “เงินบริจาค” ไม่ใช่ “เงินกู้ยืม” และการจ่ายเงินชดเชยก็จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเสียก่อน
อย่างไรก็ดี รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังอย่างอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ และเรือนจำอัลคาแทรซ ยืนยันว่าไม่มีงบประมาณที่จะอุดหนุนให้สถานที่เหล่านี้เปิดดำเนินการต่อได้